น้ำมันดิบปิดขยับลงเล็กน้อยหลังสต็อกร่วง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในประเทศยังคงแข็งแกร่ง


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ขยับลง 5 เซนต์ ปิดวานนี้ (17 มิ.ย.) ที่ 59.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ 63.87 ดอลลาร์/บาร์เรล

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงหนุน หลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 467.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 และเป็นการลดลงติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. 2014 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 112,000 บาร์เรล สู่ระดับ 58.1 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 460,000 บาร์เรล สู่ระดับ 217.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 114,000 บาร์เรล สู่ระดับ 133.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า อุปทานน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง โดยรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ ระบุว่า สหรัฐผลิตน้ำมันลดลง 21,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.589 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ ลดลง 7 แห่ง สู่ระดับ 635 แห่งในสัปดาห์ที่แล้ว

Back to top button