“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้แกว่งในกรอบ1620-1645จุด ชู9หุ้นเด่นเน้นกลุ่มพลังงานทดแทน-ลีสซิ่ง

บล.เออีซี ประเมินดัชนีวันนี้ (20พ.ย.61) คาด SET Index แกว่งในกรอบ 1,620-1,645 จุด หลังสภาพัฒน์คาด GDP ปี 62 โต 4.2% ขณะที่สัปดาห์นี้คาด SET Index อาจมีแรงกดดัชนีด้วยปัจจัยกดดันจากนักลงทุนต่างชาติที่ยังขายต่อเนื่อง

อีกทั้งความกังวลในการขึ้นดอกเบี้ยของธปท.ที่จะกระทบต่อต้นทุนในการทำธุรกิจที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ดีมองว่า Downside Risk ค่อนข้างจำกัด จากราคาน้ำมันที่เริ่มดีดตัว อีกทั้งคาดมีแรงซื้อจาก LTF,RMF จากงาน SET in the City โดยคาด SET Index ยังคงยืนเหนือแนวรับ 1,620 จุด (PE Valuation ที่ 15.0x) แนวต้านอยู่ที่ 1,675 จุด (PE Valuation ที่ 15.5x)

ดังนั้นในช่วงที่ตลาดมีความกังวลในการขึ้นดอกเบี้ย จึงแนะนำหุ้น 3 กลุ่มที่น่าสนใจ ดังนี้ 1) หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน ซึ่งมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ SSP (S7.5,R7.9), BPP (S23,R23.8), BGRIM (S24.5,R26.50), GUNKUL(S3.10,R3.24) 2) หุ้นกลุ่ม Net Cash Company ในระดับ Mid to Small Cap. ที่มีเงินสดจำนวนมาก คาดได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยน้อย คือ NYT(S5.00,R5.45), SKN (S4.80,R5.00) และ 3) บริษัทที่Fixed Coupon Rate และมีสัดส่วนเงินกู้ระยะยาวสูง ได้แก่ KTC(S32.5,R34.5), MTC(S48,R51.25), SAWAD(S44.50,R47.00)

*** (S,R) = (Support, Resistance) ใน 1 สัปดาห์ ***

Fundamental Report

MONO (SELL:[email protected]): ช่วง 3Q61 พลิกมีผลขาดทุน 70 ลบ. จากมีกำไรปกติ 71 ลบ. ในช่วง 3Q60 หลังรายได้ธุรกิจ Subscription service แย่ลงต่อเนื่อง (จากรายได้ของธุรกิจ MVAS ที่ลดลงเร็วกว่ารายได้ของ Monomax) และมีค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงช่วง 2H62 ทำให้เราคาดปี 61 บริษัทจะมีผลขาดทุน 78 ล้านบาท พลิกจากมีกำไร 58 ล้านบาทในปี 60

Market Talk

SSP (BUY:Consensus [email protected]): ตั้งเป้าปี 62 มีกำลังการผลิตที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 157 MW จากสิ้นปีนี้คาดจะอยู่ที่ 90 MW ตามการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มอีก 2 โรง ได้แก่  โซลาร์ฟาร์ม มองโกเลีย 16.40 MW  (คาด COD ต้นปี 62)  และโซลาร์ฟาร์ม เวียดนาม 49.6 MW (คาด COD กลางปี 62) + มี Upside 38.0%

WHA (BUY: Consensus [email protected]): ช่วง 4Q61 Consensus คาดกำไรโตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหนุนด้วยรายได้จากการขายที่ดินด้วย Backlog ราว 700 ไร่ (เป้าหมายปีนี้ 1,400 ไร่ แบ่งเป็นไทย 1,250 ไร่ และเวียดนาม 150 ไร่) บวกกับรายได้จากค่าเช่าคาดเพิ่มขึ้นเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 3 แสนตรม.(เป้าหมาย 2-2.5 แสนตรม.) หลังบริษัทจะมีการเซ็นสัญญาลูกค้าอีก 2-3 ราย และในเดือนพ.ย.มีแผนขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART มูลค่า 4.46 พันลบ. จึงคาดหนุนปี 61 กำไรโต 7.3%YoY + Upside 18.2% จึงแนะนำ “ซื้อ”