Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Tactical Move

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

SET Index ปรับลดลง -14.84 จุด (-0.91%) ปิดภาคเช้าที่ 1,621.64 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16,719.76 ล้านบาท

Most Positive Impact: BJC (+0.1 จุด), DIF (+0.09 จุด), CBG (+0.07 จุด)

Most Negative Impact: SCB (-1.0 จุด), KBANK (-0.94 จุด), ADVANC (-0.87 จุด)

แนวโน้มตลาดบ่าย

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงสอดคล้องกับตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาคอย่างเช่น ฮ่องกง(-2.08%), จีน(-1.67%), ญี่ปุ่น(-1.14%), ออสเตรเลีย(-0.47%), อินเดีย(-0.34%) เป็นต้น ส่วน SET Index การปรับตัวลงเป็นผลมาจากการปรับลดลงของ กลุ่มธนาคาร(-3.45 จุด) พลังงาน(-2.55 จุด) สื่อสาร(-1.61 จุด) อสังหาฯ(-1.60 จุด) และกลุ่มพาณิชย์(-1.5 จุด) ซึ่งการปรับตัวลงของดัชนีมีมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางแสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจและชะลอการลงทุน

ติดตามการพิจราณาของ EU ต่อร่างงบประมาณของอิตาลีอีกครั้งในวันพรุ่งนี้(21 พ.ย.) หลังจากก่อนหน้าอิตาลีได้เสนอร่างงบประมาณปี 2019 ต่อคณะกรรมาธิการยุโรปไปแล้วแต่ไม่ผ่าน ซึ่งหากอิตาลีไม่แก้ไขตามที่ EU เรียกร้องก็จะเสี่ยงต่อการถูกปรับและจะกระทบต่อเศรษฐกิจของอิตาลี

จากรายงานข่าวระบุว่าซาอุดิอาระเบียลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบไปยังสหรัฐเพื่อไม่ให้คลังน้ำมันดิบของสหรัฐสูงเกิน เนื่องจากต้องการพยุงราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับสูง ซึ่งขณะนี้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่พยายามควบคุมอุปทานน้ำมัน เชื่อระยะสั้นราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้จะมีการรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐซึ่งมีลุ้นว่าจะลดลง โดยตลาดคาดการณ์อยู่ที่ 2 ล้านบาร์เรล

กลยุทธ์ระยะสั้นน่าเก็งกำไรราคาน้ำมันดิบที่จะดีดตัวขึ้นจากปัจจัยข้างต้น ภาคบ่ายแนะนำเก็บ PTTEP หรือหากถือยาวที่ราคาปัจจุบันถือว่าค่อนข้างถูก ซื้อขายกันที่ PER ปี 2562 ที่ 10.7 เท่า และยังมี upside กำไรจากแหล่งบงกช และเอราวัณ

ประเด็นต้องติดตามต่อสัปดาห์นี้ วันพรุ่งนี้จะมีการรายงานดุลการค้าไทยประจำเดือน ต.ค.โดยกระทรวงพาณิชย์ ส่วนวันพฤหัสบดีติดตามการเผยแพร่รายงานการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป และวันศุกร์จะมีการรายงาน PMI ภาคการผลิตประจำเดือน พ.ย. ของยูโรโซนและสหรัฐอเมริกา โดยตลาดคาดการณ์ที่ 51.9 และ 55.7 ตามลำดับ

หุ้นแนะนำ CPALL CPF STEC