Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย
Tactical Move เดินเกมกลยุทธ์บ่าย SET Index ปรับเพิ่มขึ้ …
Tactical Move
เดินเกมกลยุทธ์บ่าย
SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 1.50 จุด (0.09%) ปิดภาคเช้าที่ 1,623.60 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 14,911.02 ล้านบาท
Most Positive Impact: SCC (+0.71 จุด), IVL (+0.55 จุด), CPN (+0.44 จุด)
Most Negative Impact: PTT (-1.4 จุด), PTTEP (-0.97 จุด), PTTGC (-0.55 จุด)
แนวโน้มตลาดบ่าย
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสอดคล้องกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น ฮ่องกง(+1.73%) ฟิลิปปินส์(+0.98%) ญี่ปุ่น(+0.68%) อินโดนีเซีย(+0.04%) เป็นต้น สำหรับ SET Index ยังคงมีมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง ซึ่งคาดว่าจะกลับมาคึกคักในสัปดาห์หน้าหลังจากผลการเจรจาข้อพิพาทได้ข้อสรุป สำหรับกลุ่มที่ปรับตัวลงวันนี้ได้แก่ กลุ่มพลังงาน(-2.22 จุด) ถูกชดเชยด้วยการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มธนาคาร(+1.29 จุด) วัสดุก่อสร้าง(+0.77 จุด) อสังหาฯ(+0.57 จุด)
ราคาน้ำมันดิบโลกยังคงผันผวน โดยน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงอีกครั้งกว่า 7% เมื่อคืนวันศุกร์ โดยต้องติดตามผลการประชุม OPEC ซึ่งจะทราบผล 6 ธ.ค. คาดว่าน่าจะลดกำลังการผลิตแต่จะลดที่เท่าไหร่นั้นสำคัญ หากราคาน้ำมันจะฟื้นตัว KS research มองว่าต้องเห็นการลดกำลังการผลิตราวๆ 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน
สำหรับกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (EM) ได้รับประโยชน์จาก EM concern ที่คลายกังวลลงจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงทำให้มีเงินไหลเข้าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น อินโดนีเซีย โดยเชื่อว่าหากการเจราข้อพิพาทการค้าออกมาเป็นบวกจะมีเงินทุนไหลเข้ากลุ่มประเทศ EM ต่อเนื่อง รวมถึงประเทศไทย
กลยุทธ์การลงทุน คงน้ำหนักอยู่ที่ 70% โดยให้อิงวันที่ 30 พ.ย.61 ถ้าสหรัฐและจีนบรรลุการเจรจา ให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนเป็น 90% เน้นไปที่ SAWAD TISCO BBL KTB PTTGC CPALL ROBINS HANA SVI STEC AOT ERW MINT BH แต่หากไม่สามารถบรรลุการเจรจาต้องลดน้ำหนักลงทุนลงเหลือ 50%
สัปดาห์นี้ในวันพุธฝั่งสหรัฐจะมีรายงานดัชนี GDP ไตรมาส3 โดยตลาดคาดการณ์ที่ 3.6% QoQ ตามมาด้วยสินค้าคงคลังน้ำมันดิบ และตัวเลขดุลการค้าซึ่งคาดการณ์ขาดดุลประมาณ 7.6 หมื่นล้านเหรียญ ต่อมาวันพฤหัสจะมีการรายงาน Core PCE ประจำเดือน ต.ค. ของสหรัฐ โดยตลาดคาดไว้ที่ 2.0% YoY ส่วนวันศุกร์จีนจะมีการรายงาน PMI ภาคการผลิตของจีนซึ่งน่าจะออกมาที่ 50.6 และติดตามรายงานการประชุม FOMC
หุ้นแนะนำ SAWAD BH AAV