สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 27 พ.ย. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค โดยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และยังสามารถสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,748.73 จุด เพิ่มขึ้น 108.49 จุด หรือ +0.44% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,082.70 จุด เพิ่มขึ้น 0.85 จุด หรือ +0.01% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,682.17 จุด เพิ่มขึ้น 8.72 จุด หรือ +0.33%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก หากการเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประสบความล้มเหลว
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.26% ปิดที่ 357.40 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,309.11 จุด ลดลง 45.61 จุด หรือ -0.40% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,983.15 จุด ลดลง 11.82 จุด หรือ -0.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,016.85 จุด ลดลง 19.15 จุด หรือ -0.27%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มทรัพยากร รวมทั้งความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความเห็นว่า ข้อตกลงว่าด้วยการที่สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อาจเป็นอุปสรรคทางการค้าระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,016.85 จุด ลดลง 19.15 จุด หรือ -0.27%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 51.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 27 เซนต์ หรือเกือบ 0.5% ปิดที่ 60.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อคืนนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,213.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.1 เซนต์ หรือ 0.85% ปิดที่ 14.084 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.2562 ร่วงลง 12.5 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ 835.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1122.10 ดอลลาร์/ออนซ์
เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงว่าด้วยการที่สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยกล่าวว่า ข้อตกลง Brexit อาจเป็นอุปสรรคทางการค้าระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักร
เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2733 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2811 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1295 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1329 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7228 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.78 เยน จากระดับ 113.64 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3299 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3241 ดอลลาร์แคนาดา อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9986 ฟรังก์ จากระดับ 0.9991 ฟรังก์