AQ พร้อมปลดเครื่องหมาย “C” หลังขายที่ดิน 4,300 ไร่ ดันส่วนของผู้ถือหุ้นเกิน 50%

AQ พร้อมปลดเครื่องหมาย "C" หลังขายที่ดิน 4,300 ไร่ ดันส่วนของผู้ถือหุ้นเกิน 50%


บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ ระบุว่า ตามที่บริษัทได้จัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง (Public Presentation) ในการที่หลักทรัพย์ของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย “C” จากการที่บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว สำหรับงบการเงินไตรมาสที่ 3/2561 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 โดยจัดประชุมเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเอลิคซ์ กรุงเทพ อาคาร B ห้องประชุม ชั้น 2 เลขที่ 31 ซอยศูนย์วิจัย 7 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ขอรายงานสรุปผลการประชุม ดังนี้

ทั้งนี้สาเหตุจากที่บริษัทฯมีผลขาดทุนจำนวนมากเนื่องจากการตั้งสำรองภาระหนี้สินจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องชดให้ให้ธนาคารกรุงไทยมีอยู่จำนวน 3,056.41 ล้านบาทเกิดจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้บริษัทร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายจำนวน 10,004.47 ล้านบาท บริษัทฯ จ่ายชำระไปแล้วจำนวน 1,635.74 ล้านบาท คงเหลือภาระหนี้สินที่ต้องชดใช้จำนวน 8,368.73 ล้านบาท

สำหรับแนวทางแก้ไข การขายทอดตลาดที่ดินหลักประกัน จำนวน 4,300 ไร่  ซึ่งราคาของที่ดินที่ขายทอดตลาดคณะกรรมการกำหนดราคาขายอยู่ที่ ราคา 8,914.07 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าจำนวนเงินที่บริษัทต้องชดใช้ โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561เป็นนัดแรกในการขายทอดตลาด มีผู้ประมูลที่ดินหลักประกันได้ในราคา 8,914.07 ล้านบาทโดยผู้ประมูลได้วางเงินมัดตามระเบียบที่สำนักงานบังคับคดีจำนวน 448.50 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือผู้ประมูลได้รับอนุญาตให้ขยายระยะเวลาชำระเงินออกไปเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ดังนั้นสำรองภาระหนี้สินที่ตั้งไว้จะถูกโอนล้างผลขาดทุนสะสมจึงทำให้ผลขาดทุนคงเหลือ 3,339.06 ล้านบาททำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 6,668.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับส่วนของทุนที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้วหักส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นมีจำนวนสุทธิ 9,902.35 ล้านบาท ได้อัตราส่วนร้อยละ 67.35 เกินกว่า 50 % ตามเกณฑ์ ดังนั้นบริษัทฯสามารถที่จะแก้ไขเครื่องหมาย C ได้

ขณะที่ คณะกรรมการเห็นควรให้รอผลที่ธนาคารกรุงไทยได้รับชำระเงินจากการประมูลขายที่ดิน 4,300 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2562 และบริษัทฯจะรายงานความคืบหน้าให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนรับทราบผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป

 

Back to top button