สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 28 พ.ย. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้น 600 จุดเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวสอดคล้องกับการคาดการณ์ และจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐและจีนซึ่งจะมีขึ้นนอกรอบการประชุม G20 ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ จะช่วยยุติสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,366.43 จุด พุ่งขึ้น 617.70 จุด หรือ +2.50% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,743.79 จุด เพิ่มขึ้น 61.62 จุด หรือ +2.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,291.59 จุด พุ่งขึ้น 208.89 จุด หรือ +2.95%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการซื้อขายก่อนการแถลงของประธานธนาคารกลางทั้ง 2 แห่ง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.01 จุด ปิดที่ระดับ 357.39 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันที่ 11,298.88 จุด ลดลง 10.23 จุด หรือ -0.09% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,004.52 จุด ลดลง 12.33 จุด หรือ -0.18% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,983.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.09 จุด หรือ +0.00%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) ก่อนที่นักลงทุนจะทราบผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) รวมทั้งการกล่าวสุนทรพจน์ของนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,004.52 จุด ลดลง 12.33 จุด หรือ -0.18%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนของการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 6 ธ.ค.นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 50.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ดิ่งลง 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 58.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 10.20 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,223.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 24.1 เซนต์ หรือเกือบ 1.7% ปิดที่ 14.324 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.2562 ลดลง 9.0 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 826.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. 2562 พุ่งขึ้น 29.80 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 1151.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.53 เยน จากระดับ 113.78 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9930 ฟรังก์ จากระดับ 0.9986 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3271 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3299 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1376 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1295 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2834 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2733 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7314 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7223 ดอลลาร์สหรัฐ