ดอลล์อ่อนค่าหลังเฟดยังมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงิน
ดอลลาร์สหรัฐปรับลงต่อเนื่องเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1368 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1333 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5874 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5829 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.05 เยน จาก 123.38 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9219 ฟรังก์ จาก 0.9222 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7794 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7750 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนมมองว่าแถลงการณ์ของเฟด และความคิดเห็นของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่เปิดเผยหลังการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุด เป็นสัญญาณถึงท่าทีผ่อนคลายทางการเงิน โดยนางเยลเลนระบุว่า เฟดจะยังคงจุดยืนด้านนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้าก็ตาม
นักวิเคราะห์มองว่า ดอลลาร์จะยังคงได้รับแรงกดดัน จนกว่าจะมีสัญญาณชัดเจนจากข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆที่จะหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่เฟดจะพิจารณาก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน
เมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผย ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. และเพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนเม.ย.