สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 29 พ.ย. 2561  


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 จะมีขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มธนาคารปิดตลาดอ่อนแรงลง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจดำเนินนโยบายการเงินที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในปีหน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,338.84 จุด ลดลง 27.59 จุด หรือ -0.11% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,273.08 จุด ลดลง 18.51 จุด หรือ -0.25% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,737.76 จุด ลดลง 6.03 จุด หรือ -0.22%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) โดยระบุว่า ธนาคารรายใหญ่ของอังกฤษผ่านการทดสอบ นอกจากนี้ รายงานของ BoE ยังระบุว่า ระบบธนาคารของอังกฤษจะเอาตัวรอดจากผลกระทบของการที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ได้ แม้ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 358.10 จุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,038.95 จุด เพิ่มขึ้น 34.43 จุด หรือ +0.49% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,006.25 จุด เพิ่มขึ้น 23.01 จุด หรือ +0.46% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,298.23 จุด ลดลง 0.65 จุด หรือ -0.01%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) โดยระบุว่า ธนาคารรายใหญ่ของอังกฤษผ่านการทดสอบ นอกจากนี้ รายงานของ BoE ยังระบุว่า ระบบธนาคารของอังกฤษจะเอาตัวรอดจากผลกระทบของการที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit ได้ แม้ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,038.95 จุด เพิ่มขึ้น 34.43 จุด หรือ +0.49%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,230.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 5.3 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 14.402 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.2562 ลดลง 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ 820.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. 2562 ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1151.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) หลังจากนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ในการสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 51.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 59.51 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนและยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจดำเนินนโยบายการเงินที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในปีหน้า

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.43 เยน จากระดับ 113.53 เยน อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9963 ฟรังก์ จากระดับ 0.9930 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3274 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3271 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1388 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1376 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2782 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2834 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7319 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7314 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button