Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Tactical Move

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

SET Index ปรับลดลง -15.71 จุด (-0.94%) ปิดภาคเช้าที่ 1,656.61 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20,403.41 ล้านบาท

Most Positive Impact: BEM (+0.15 จุด), KTB (+0.14 จุด), DIF (+0.09 จุด)

Most Negative Impact: PTT (-2.1 จุด), AOT (-1.05 จุด), CPN (-0.88 จุด)

แนวโน้มตลาดบ่าย

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงหลังได้รับความกังวลจากปัจจัยต่างประเทศสอดคล้องตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่ปรับตัวลดลงเช่น ญี่ปุ่น(-2.50%) จีน(-1.65%) สิงคโปร์(-1.29%) ฟิลิปปินส์(-0.99%) มาเลเซีย(-0.63%) อินโดนีเซีย(-0.53%) เป็นต้น สำหรับ SET Index กลุ่มที่ปรับตัวลดลงได้แก่ กลุ่มพลังงาน(-4.38 จุด) ธนาคาร(-2.27 จุด) พาณิชย์(-1.97 จุด) อสังหาฯ(-1.44 จุด) ปิโตรฯ(-1.16 จุด) และกลุ่มขนส่ง(-1.02 จุด)

การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปี ได้ปรับเพิ่มขึ้นตาม policy rate ของ FED ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ถูกนักลงทุนที่กลัวความเสี่ยงไล่ซื้อจนผลตอบแทนลดลง เป็นผลทำให้ Yield curve เริ่มมีลักษณะแบนราบจากปกติที่ควรจะชันขึ้น ซึ่งนักลงทุนมักใช้ผลต่างของพันธบัตร 2 ตัวนี้ในการพยากรณ์เศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ดีตัวชี้วัดนี้ก็ไม่ได้ถูกทุกครั้ง อีกทั้ง FED ก็ไม่ได้เชื่อในตัวชี้วัดนี้

การจับกุมตัวประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเว่ยโดยมีทางการสหรัฐเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าแนวทางข้อตกลงการค้าที่ทำกันมาหลังการประชุม G20 จะสะดุดลง และภายหลัง 90 วัน ที่สหรัฐได้เลื่อนกำหนดการเก็บภาษี หากสหรัฐและจีนยังเจรจากันต่อไม่ได้จะเกิดสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น

กลยุทธ์การลงทุนคงน้ำหนักการลงทุนปัจจุบันเป็น 80% มอง Sentiment ลบที่เข้ามาเป็นแค่ระยะสั้น กลาง-ยาว ยังเชื่อว่าจะมีการฟื้นตัวได้ การปรับลงของตลาด (คาดไม่ต่ำกว่า 1650 จุด) จะเป็นโอกาสในการเข้าสะสมเพิ่ม

ประเด็นที่ต้องติดตามวันพฤหัสจะมีการรายงานดุลการค้าสหรัฐเดือน ต.ค. โดยตลาดคาดการณ์ขาดดุล 5.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และในวันพรุ่งนี้ยูโรโซนจะมีการรายงาน GDP ไตรมาส 3 โดยตลาดคาดการณ์ที่ 1.7% YoY ส่วนฝั่งสหรัฐจะมีการรายงานอัตราการว่างงานประจำเดือน พ.ย. โดยตลาดคาดการณ์ที่ 3.7%

หุ้นแนะนำ HANA ERW CPALL