ปรับหมากกลยุทธ์ ภาคบ่าย – บล.เอเซีย พลัส

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


อย่าวิตกกังวล ไม่มีไข้หวัดไหนแรงกว่าไข้ใจหรอก กลยุทธ์การลงทุน เลือกหุ้น Domestic ที่ลงมาแรงช่วงก่อนหน้า KBANK, BLA  และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเร่งลงทุนของรัฐ CK

มุมมองและการวิเคราะห์

– ตลาดหุ้นเอเซียช่วงเช้าที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะสามารถยืนได้ในแดนบวก โดยวันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นฟื้นกลับมายืนในแดนบวกได้ 0.97% ตามด้วยตลาดหุ้นฮ่องกงปรับเพิ่มขึ้น 0.99% ตลาดหุ้นเกาหลี 0.66% ตลาดหุ้นมาเลเซีย 0.36% สวนทางกับตลาดหุ้นจีนที่ปรับลดลงหนักต่อเนื่อง 2.78% (สัปดาห์นี้ปรับลดลงหนักถึง 10.86%) ขณะที่หุ้นกลุ่ม TlP สามารถฟื้นตัวได้เป็นส่วนใหญ่ โดยตลาดหุ้นอินโดนิเซียเพิ่มขึ้น 0.77% ตลาดหุ้นฟิลิปินส์เพิ่มขึ้น 0.25% มีเพียง SET lndex ของไทยติดลบเล็กน้อย 0.64% 

– SET lndex ปิดที่  1,498.37 จุด ยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง  9.67 จุด โดยกลุ่มที่ปรับลดลงมากที่สุดในวันนี้ยังคงเป็นหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว (3.55%)และหุ้นในกลุ่มขนส่ง (3.45%) ซึ่งการปรับลดลงของทั้ง 2 กลุ่มส่งผลให้ดัชนีปรับลดลง 3.55 จุด หรือเท่ากับ 0.24% (ผลกระทบต่อ SET lndex พบว่าในทุกๆการปรับลดลง 1% ของ กลุ่ม ขนส่งทางอากาศ และ ท่องเที่ยว จะกดดัน SET lndex 0.07%) โดยได้รับปัจจัยกดดันหลักจาก 2 ประเด็น เริ่มจากประเด็นแรก ที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ lCAO ปักธงแดงหน้าชื่อประเทศไทย  ซึ่งบ่งบอกถึง มาตรฐานการกำกำบดูแลความปลอดภันธุรกิจการบินของกรมการบินพลเรือนไทย (บพ.) ที่ไม่ได้คุณภาพ

ซึ่งจะทำใหัสายการบินถูกเข้มงวดในการดำเนินธุรกิจ และไม่สามารถเพิ่มจุดบินใหม่ๆ ส่วนอีกประเด็นคือการตรวจพบผู้ติดเชื้อเมิร์สรายแรก ในประเทศไทย ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยที่เกิดขึ้นน่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นรายได้หลักสำคัญของประเทศ (คิดเป็น 16% – 17% ของ GDP) แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้น ทำให้ในระยะนี้แนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มขนส่งทางอากาศ (THAl AAV BA และ NOK) กลุ่มโรงแรม (โดยเฉพาะ ERW ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 90% มาจากธุรกิจโรงแรมในประเทศ ขณะที่ CENTEL และ MlNT ได้รับผลกระทบรองลงมาเพราะมีโครงสร้างรายได้กระจายตัว) 

– จากผลกระทบภาคการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น จะทำให้กลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศเริ่มมีไม่มาก ทำให้ความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจตอนนี้ น่าจะพุ่งเป้าไปที่การลงทุนภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งในช่วงถัดจากนี้น่าจะได้เห็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่เข้ามามากขึ้น ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลของนักวิเคราะห์ ASPS คาดจะมีโครงการที่เข้ามาประมูลมูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท น่าจะทำให้หุ้นในกลุ่มรับเหมาฯกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้รับเหมาฯรายใหญ่ ซึ่งฝ่ายวิจัยเลือก CK(FV@B 31.25) เพราะนอกจากจะได้ประโยชน์ดังกล่าวแล้ว ผลประกอบการก็ยังโดดเด่นอีกด้วย

 

กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic

– หุ้นเด่นเดือน มิ.ย.58 เน้น High Dividend Yield ASK, LPN, lNTUCH, TTW, TVO 

– หุ้นกลุ่มรับเหมาฯจากโอกาสในการประมูลโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ CK, STEC 

– หุ้น Domestic ที่ลงมากกว่าตลาดและ Laggard มาก KBANK, BLA

– หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า HANA, KCE, VNG, TUF, STA 

– Portfolio Update : ASK , BLA, CK, STPl, KABNK, VNG 

 

Back to top button