ดาวโจนส์ปิดร่วงเกือบ 100 จุด จากวิตกปัญหาหนี้กรีซ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของวิกฤตหนี้สินกรีซ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 99.89 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 18,015.95 จุด, ดัชนี S&P 500 ลดลง 11.25 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 2,109.99 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 15.95 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 5,117.00 จุด
เนื่องจากตลาดยังไร้ปัจจัยชี้นำใหม่ๆ นักลงทุนจึงหันไปให้ความสำคัญกับสถานการณ์วิกฤตหนี้สินของกรีซ โดยผู้นำประเทศยุโรปมีกำหนดจะประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซในวันจันทร์นี้ ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่การประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรปไม่สามารถทำข้อตกลงในประเด็นวิกฤตหนี้สินของกรีซได้
นายเจอโรน ดิจเซลโบลม รัฐมนตรีคลังเนเธอร์แลนด์และประธานกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป กล่าวในงานแถลงข่าวภายหลังการประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรปที่กรุงบรัสเซลส์ว่า “ยังไม่มีแนวโน้มในการทำข้อตกลงเกี่ยวกับหนี้สินกรีซ”
ทั้งหนี้ การขยายโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซครั้งที่สองจะหมดอายุลงในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ซึ่งกรีซจะต้องจ่ายชำระหนี้เป็นจำนวน 1.5 พันล้านยูโร (1.69 พันล้านดอลลาร์) ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลง โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ลดลง 1% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป และหุ้นเวลล์ส ฟาร์โก แอนด์ โค ลดลงอย่างน้อย 1.1% หุ้นไมโครซอฟท์ คอร์ป ลดลง 1.3% ในขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน โดยหุ้นสกายเวสต์ อิงค์ หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ กรุ๊ป อิงค์ และหุ้นยูไนเต็ด คอนทิเนนทัล โฮลดิ้งส์ อิงค์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.3%