INGRS พุ่ง 7% คาดนักลงทุนซื้อรอรับปันผล 0.026 บ. XD 2 ม.ค.นี้
INGRS พุ่ง 7% คาดนักลงทุนซื้อรอรับปันผล 0.026 บ. XD 2 ม.ค.นี้ เคาะวันจ่าย 11 ม.ค.61 ล่าสุด ณ เวลา 10.24 น. อยู่ที่ 0.58 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 7.41% สูงสุดที่ 0.59 บาท ต่ำสุดที่ 0.58 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.37 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ INGRS ล่าสุด ณ เวลา 10.24 น. อยู่ที่ 0.58 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 7.41% สูงสุดที่ 0.59 บาท ต่ำสุดที่ 0.58 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.37 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น INGRS ปรับตัวขึ้นหลังบริษัทประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.026 บาท โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 ม.ค.2561 และกำหนดจ่ายเงินวันที่ 11 ม.ค.2561
อนึ่ง นายฮามิดี บิน เมาลอด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ INGRS เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3 ปี 2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 912.56 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 12.3% จากรายได้รวม 812.41 ล้านบาทในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และบริษัทฯมีกำไรสุทธิ 26.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,458% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 1.35 ล้านบาทใน ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 161% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ13.15 ล้านบาทใน ไตรมาส 3 ของปีก่อน
โดยรายได้รวมของบริษัทฯ ประกอบด้วยรายได้จากบริษัทย่อยในประเทศไทยประมาณ 32.54% รายได้จากบริษัทย่อยในประเทศมาเลเซียประมาณ 55.25% รายได้จากบริษัทย่อยในประเทศอินเดียประมาณ 5.83% และรายได้จากบริษัทย่อยในประเทศอินโดนีเซียประมาณ 6.38%
ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 2,378.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้รวม 2,148.47 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 48.35 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 104.36 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ที่ลดลงจากบริษัทฯ ย่อยในมาเลเซีย ค่าใช้จ่ายภาษีที่เพิ่มขึ้นและผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.026 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 37,620,509.94 บาทโดยจะกำหนดวันปิดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 3 มกราคม 2562 ปัจจุบันธุรกิจของบริษัท มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯได้เซ็นสัญญารับออเดอร์ใหม่เพื่อผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ให้กับผู้ผลิตรถยนต์หลายแห่งในหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง และในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯมีการเริ่มผลิตชิ้นส่วนรถยนต์โครงการใหม่หลายโครงการในประเทศไทย อินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะ ช่วยผลักดันผลประกอบการของบริษัทฯให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยบริษัทใช้งบลงทุนในปีนี้ทั้งสิ้นประมาณ 540 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังเสนองานใหม่อีกหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการที่เป็นโครงการระดับโลกซึ่งมีมูลค่าโครงการสูงกว่าโครงการทั่วไป เนื่องจากแต่ละโครงการจะมีการผลิตชิ้นส่วนป้อนโรงงานในหลายประเทศ โดยบริษัทฯคาดว่าจะทยอยทราบผลการประมูลภายในปี 2019 และสำหรับประเทศมาเลเซีย บริษัทฯ คาดว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ปี 2562 คาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น และมีแนวทางการพัฒนาที่ชัดเจนขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการของกลุ่มโปรตอนและการสนับสนุนจากภาครัฐที่น่าจะมากขึ้น
ดังนั้น บริษัทฯ คาดว่ายอดการผลิตชิ้นส่วนให้กลุ่มโปรตอนซึ่งเป็น 1 ในลูกค้าหลัก จะเพิ่มมากขึ้นและเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งเมื่อรวมกับการผลิตชิ้นส่วนโครงการใหม่ๆให้กลุ่มเพอโรดัว จะทำให้บริษัทฯย่อยในมาเลเซียมีรายได้ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ INGRS วางแผนที่จะขยายธุรกิจในประเทศอินเดียอย่างเต็มที่ โดยบริษัทฯจะเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด ตลอดจนขยายฐานลูกค้าผลิตรถยนต์รายใหม่ๆเพิ่มเติม เนื่องจากอินเดียมีอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่มีการผลิตรถยนต์ปีละ 4 ล้านคัน และยังเติบโตสูงสุดถึง 14.3% จากปีก่อน