ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้รีบาวด์ ฟากนลท.จับตาผลประชุมเฟด คาดขึ้นดบ.รอบ 4 สู่ระดับ 2.50%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นในเช้าวันนี้ หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวาน อย่างไรก็ดีนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ที่จะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 19 ธ.ค.ตามเวลาสหรัฐฯ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 21,107.17 จุด ลดลง 8.28 จุด, -0.04%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,578.68 จุด เพิ่มขึ้น 2.03 จุด, +0.08%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,860.68 จุด เพิ่มขึ้น 46.43 จุด, +0.18%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,720.92 จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด, +0.02%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,068.95 จุด เพิ่มขึ้น 6.84 จุด, +0.33%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,045.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด, +0.01%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,635.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.63 จุด, +0.04%

ทั้งนี้ นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% หลังจากสิ้นสุดการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลว่าหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐอาจถูกชัตดาวน์ หลังจากวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตได้ปฏิเสธที่จะสนับสนุนร่างกฎหมายงบประมาณการใช้จ่ายวงเงิน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนเม็กซิโก ซึ่งเสนอโดยนายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา

อนึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่หลายคนของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างงบประมาณสำหรับการก่อสร้างกำแพงดังกล่าว มิฉะนั้นรัฐบาลอาจจำเป็นต้องปล่อยให้หน่วยงานบางส่วนถูกปิดทำการเนื่องจากขาดแคลนงบประมาณ หรือ “ชัตดาวน์” เพื่อแลกกับความมั่นคงตามแนวชายแดน