“หุ้นไทย”เสี่ยงรูดต่อ! เซ่นปัจจัยลบตปท.หลัง”ดาวน์โจนส์”ดิ่ง 464 จุด หลุดระดับ 23,000 จุด
“หุ้นไทย” เสี่ยงรูดต่อ! เซ่นปัจจัยลบตปท. หลัง ”ดาวน์โจนส์” ดิ่งกว่า 464 จุด หลุดระดับ 23,000 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องวานนี้ โดยปิดที่ระดับ 22,859.60 จุด หลุดระดับ 23,000 จุด หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในเดือนนี้ นับตั้งแต่ที่สหรัฐฯเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 2474 โดยได้ดิ่งลงแล้ว 8% ขณะที่ทรุดตัวลงกว่า 1,250 จุดในสัปดาห์นี้
ขณะที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้
ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะซึมตัวลง จาก Sentiment หุ้นโลกค่อนข้างแย่จากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย พร้อมกับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้และปีหน้า
รวมถึงที่ประชุมธนาคารกลางอังกกฤษ (BoE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวานนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ทาง BoE ยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในไตรมาส 4 ทำให้ภาพตลาดมีความกังวลมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ดิ่งลงเกือบ 5% มาทำระดับต่ำสุดรอบ 17 เดือนก็ยังกดดันต่อภาพการลงทุนด้วย
อย่างไรก็ตามปัจจัยในประเทศยังมีภาพบวกเล็กน้อย จากการที่กองทุนในประเทศกลับมาซื้อสุทธิหลังจากที่ได้ขายออกมาตลอดในช่วงต้นเดือน ธ.ค. ส่วนหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเงินไหลเข้าจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่จะเข้ามาในช่วงปลายปี รวมถึงตลาดยังคาดว่ามีแนวโน้มที่จะมีการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) ในช่วงนี้ด้วย ซึ่งน่าจะช่วยประคองไม่ให้การปรับลดลงของดัชนีจะยังไม่เกิดจุดต่ำสุดใหม่หลังจากที่ทำไว้ในรอบนี้ที่ 1,578 จุด
พร้อมให้แนวรับที่ 1,580-1,585 จุด และแนวต้านที่ 1,600 จุด และ 1,610-1,615 จุด