BEM พุ่ง 6% ทุบออลไทม์ไฮ! โบรกฯอัพเป้า 12 บ. รับลูกกทพ.ต่อสัมปทานทางด่วน 37 ปี
BEM พุ่ง 6% ทุบออลไทม์ไฮ! โบรกฯอัพเป้า 12 บ. รับลูกกทพ.ต่อสัมปทานทางด่วน 37 ปี ล่าสุด ณ เวลา 10.08 น. อยู่ที่ 9.85 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 6.49% สูงสุดที่ 9.85 บาท ต่ำสุดที่ 9.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 519.11 ล้านบาท ฟาก CK บวกตาม 4% รอรับอานิสงส์ โดยล่าสุดอยู่ที่ 25.50 บาท บวก 0.90 บาท หรือ 3.66% สูงสุดที่ 25.75 บาท ต่ำสุดที่ 24.70 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 149.49 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ล่าสุด ณ เวลา 10.08 น. อยู่ที่ 9.85 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 6.49% สูงสุดที่ 9.85 บาท ต่ำสุดที่ 9.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 519.11 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น BEM ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) รับปัจจัยบวกคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ขยายอายุสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 จะสิ้นสุดวันที่ 27 ก.พ. 2563 ออกไป 37 ปี เพื่อลดหนี้ข้อพิพาทที่มีต่อกันมายาวนานทั้งที่ยุติไปแล้ว
โดย นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2561 เห็นชอบแนวทางตามที่กทพ.เสนอจะเจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM คู่สัญญาสัมปทานในภาพรวมการแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น ข้อพิพาทการขยายอายุสัญญาทางด่วนขั้นที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2561 ได้ประชุมบอร์ดและเชิญทางผู้บริหาร BEM มาเจรจา ซึ่งผลสรุปออกมาเป็นแนวโน้มที่ดีทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้จะขยายอายุสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 จะสิ้นสุดวันที่ 27 ก.พ. 2563 ออกไป 37 ปี เพื่อลดหนี้ข้อพิพาทที่มีต่อกันมายาวนานทั้งที่ยุติไปแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.3 แสนล้านบาท พร้อมกับปรับสูตรการปรับค่าผ่านทางใหม่ให้ปรับขึ้นทุก ๆ 10 ปี ในอัตรา 10 บาท เท่ากับว่าเอกชนจะปรับค่าผ่านทางได้ 2 ครั้ง และแบ่งรายได้ค่าผ่านทางให้กทพ 60% ตลอดอายุสัญญาสัมปทาน
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BEM ให้ราคาเป้าหมาย 12 บาท/หุ้น โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดกังวลกับ 2 ประเด็นหลักอย่างการเจรจาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ที่จะหมดอายุในปี 2563 จากนี้
ดังนั้นเมื่อกทพ.เตรียมจะขยายอายุสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 จะสิ้นสุดวันที่ 27 ก.พ. 2563 ออกไป 37 ปีนั้น จึงมองว่าความกังวลจะถูกผ่อนคลายพลิกกลับมาเป็น Upside ต่อบริษัท และจะส่งผลให้ BEM ก้าวขึ้นเป็นผู้นำการถือสัมปทานบริหารโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เช่น ทางด่วน 37 ปี , วงกลมรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 32 ปี
โดยยังคงมุมมองเชิงบวกธุรกิจที่ค่อนข้าง Defensive พร้อมปรับประมาณการราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 12.0 บาท/หุ้น จากการขยายสัมปทานทางด่วน 37 ปี จนถึงปี พ.ศ.2600 แนะนักลงทุนซื้อลงทุนระยะยาว
นอกเหนือจากประเด็นการต่อสัมปทานทางด่วนที่ส่งผลบวกต่อรายได้แล้ว ในปี 2562/63 ยังจะเป็นช่วงเวลาที่ดีของบริษัทที่รอคอยมานานกว่า 5 ปี นั่นคือการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย คาดจะส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานเติบโตก้าวกระโดดที่ 40% ภายหลังเปิดให้บริการครบวงกลมในปี 2563 ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจทางด่วนกลายเป็นตัวสร้างเงินสด (Cash cow) ในขณะที่รถไฟฟ้าสร้าง Growth
ทั้งนี้ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อบริษัทและปรับประมาณการราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 12 บาท/หุ้น จากการต่ออายุสัมปทานทางด่วนในครั้งนี้ ซึ่งมองว่า BEM ยังมี Upside ต่อประมานการอีกจาก 1) สัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก-ตก 2) สัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย 3) สัมปทานทางด่วน C+,D ซึ่งเราประเมินว่า BEM มีโอกาสได้อย่างน้อย 2/3 ของ Upside เหล่านี้ซึ่งเรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ
ขณะเดียวกัน ราคาหุ้น บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK อยู่ที่ 25.50 บาท บวก 0.90 บาท หรือ 3.66% สูงสุดที่ 25.75 บาท ต่ำสุดที่ 24.70 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 149.49 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุที่ส่งผลให้ราคาหุ้น CK ปรับตัวขึ้นเนื่อง CK จะได้รับอานิสงส์จากประเด็นดังกล่าวด้วย โดย CK ถือว่าเป็นบริษัทแม่ของ BEM หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BEM โดยถือหุ้นทั้งสิ้น 4,712,121,829 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 30.83% (ข้อมูลภาพรวมผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 05/09/2561) ดังนั้นจึงคาดว่า CK มีแนวโน้มจะได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขื้นตามไปด้วย