สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 24 ธ.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยแม้ว่านายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้หารือร่วมกับผู้บริหารของธนาคารรายใหญ่ 6 แห่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความเพียงพอของสภาพคล่องในตลาด แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความวิตกกังวลของนักลงทุนได้ นอกจากนี้ การที่หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐยังคงปิดทำการเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ รวมทั้งข่าวลือที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการปลดนายเจอโรม พาวเวล ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,792.20 จุด ร่วงลง 653.17 จุด หรือ -2.91% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,351.10 จุด ลดลง 65.52 จุด หรือ -2.71% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,192.92 จุด ลดลง 140.08 จุด หรือ -2.21%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยแม้ว่านายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้หารือร่วมกับผู้บริหารของธนาคารรายใหญ่ 6 แห่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความเพียงพอของสภาพคล่องในตลาด แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความวิตกกังวลของนักลงทุนได้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดร่วงลง 0.42% แตะที่ระดับ 335.24 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,626.39 จุด ลดลง 67.99 จุด หรือ -1.45% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,685.99 จุด ลดลง 35.18 จุด หรือ -0.52% ส่วนตลาดหุ้นเยอรมันปิดทำการวันจันทร์ที่ 24 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และการที่หน่วยงานบางส่วนของสหรัฐถูกปิดทำการเนื่องจากขาดแคลนงบประมาณ หรือชัตดาวน์

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,685.99 จุด ลดลง 35.18 จุด หรือ -0.52%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 6% เมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐ รวมทั้งความวิตกกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจส่งผลให้ความต้องการพลังงานถดถอยลงด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 3.06 ดอลลาร์ หรือ 6.7% ปิดที่ 42.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 2560

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ดิ่งลง 3.35 ดอลลาร์ หรือ 6.2% ปิดที่ 50.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 13.70 ดอลลาร์ หรือ 1.09% ปิดที่ 1271.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.ปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 11.80 เซนต์ หรือ 0.80% ปิดที่ 14.82 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 6.40 ดอลลาร์ หรือ 0.80% ปิดที่ 789.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 17.40 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1176.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงติดต่อกันหลายวันทำการ ยังสร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์ด้วยเช่นกัน

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.41 เยน จากระดับ 111.29 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9875 ฟรังก์ จากระดับ 0.9948 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3611 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3589 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1398 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1371 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2704 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2634 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7041 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7046 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Back to top button