KSL รายได้ลด-ต้นทุนพุ่ง ฉุดกำไรปี 61 ลดฮวบ 57% มาที่ 848 ลบ.
KSL รายได้ลด-ต้นทุนพุ่ง ฉุดกำไรปี 61 ลดฮวบ 57% มาที่ 848 ลบ. จากปีก่อนกำไร 1.97 พันลบ.
บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL รายงานผลการดำเนินงานปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.61 (รวมบริษัทย่อย) ดังนี้
โดยผลการดำเนินงานในปี 2561 มีผลกำไรลดลง เนื่องจากราคาขายโดยเฉลี่ยลดลงจาก 17,362 บาทต่อตัน เป็น 12,526 บาทต่อตัน โดยสาเหตุหลักของการลดลงของราคาขายเฉลี่ย เนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำตาลตลาดโลก ซึ่งราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2560 ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 20 เซนต์ต่อปอนด์ และลดลงอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันราคาอยู่ที่ระดับ 12-13 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งเป็นผลมาจากผลผลิตน้ำตาลในปี 2561 ที่ทั่วโลกมีมากขึ้น ประกอบกับการลอยตัวของราคาขายน้ำตาลในประเทศในปี 2561 ที่เป็นไปตามทิศทางเดียวกับราคาน้ำตาลตลาดโลก ส่งผลให้บริษัทมีราคาขายน้ำตาลเฉลี่ยในปี 2561 ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีปริมาณขายน้ำตาลเพิ่มขึ้นตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น จึงมีผลสุทธิให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น
อีกทั้ง รายได้อื่นลดลง สาเหตุหลักเนื่องจากในปี 2560 บริษัทย่อยแห่งหนึ่งของบริษัท ทำการควบรวมธุรกิจเอทานอล กับบริษัทย่อยของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ประกอบธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งในทางบัญชีการรวมกิจการดังกล่าวเป็นการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วมแห่งใหม่ที่ประกอบธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพแทน ทำให้บริษัทมีกำไรจากการควบรวมกิจการดังกล่าวก่อนหักภาษีจำนวน 2,370 ล้านบาท หรือ 1,896 ล้านบาทหลังหักภาษี ส่วนในปี 2561 ไม่มีรายการดังกล่าว แต่มีรายได้อื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าตอบแทนการผลิต และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่เพิ่มขึ้นน้อยกว่ารายการพิเศษในปี 2560 จึงมีผลสุทธิให้รายได้อื่นลดลงฃ
ขณะที่บริษัทมีต้นทุนในการจัดจำหน่ายสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก 1,519 ล้านบาท เป็น 1,886 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการขายเพิ่มขึ้นตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
นอกจากนี้ เนื่องจากฤดูกาลผลิตปี 2561 บริษัทมีปริมาณอ้อยเข้าหีบสูงกว่าปีที่ผ่านมา จากปริมาณอ้อยเข้าหีบ 6.83 ล้านตันอ้อย เป็น 11.03 ล้านตันอ้อย หรือเพิ่มขึ้น 61% ส่งผลให้การใช้เงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น และมีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น โดยมีต้นทุนทางหารเงินเพิ่มขึ้นจาก 668 ล้านบาท เป็น 728 ล้านบาท