ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 100 จุด รับความหวังข้อตกลงหนี้กรีซ

สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (22 มิ.ย.) ที่ 18,119.78 จุด เพิ่มขึ้น 103.83 จุด หรือ +0.58%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,153.97 จุด เพิ่มขึ้น 36.97 จุด หรือ +0.72% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,122.85 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด หรือ +0.61%

ข้อมูลล่าสุดจากฝั่งกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรประบุว่า แม้ว่าการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ในช่วงการประชุมฉุกเฉินซึ่งจัดขึ้นโดย EU เมื่อวานนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ตัวแทนเจรจาของยุโรปได้แสดงความเห็นที่เป็นบวกว่า ทั้งสองฝ่ายอาจจะมีการทำข้อตกลงกันภายในสัปดาห์นี้ เพื่อจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้และไม่ต้องออกจากยูโรโซน

ทั้งนี้ การประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป เกี่ยวกับหนี้กรีซได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมให้การขานรับต่อข้อเสนอของกรีซ แต่ก็ขอเวลาอีกหลายวันเพื่อศึกษารายละเอียดในข้อเสนอดังกล่าว เพื่อพิจารณาว่าจะผ่านความเห็นชอบหรือไม่ โดยรัฐมนตรีคลังยูโรโซนจะประชุมกันอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้

นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป และรัฐมนตรีคลังเนเธอร์แลนด์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า “เราจะทำงานกันอย่างหนักในช่วงหลายวันข้างหน้า และกับรัฐบาลกรีซเพื่อให้บรรลุข้อตกลงภายในสัปดาห์นี้” พร้อมกับกล่าวว่า ข้อเสนอใหม่จากรัฐบาลกรีซซึ่งเขาได้รับเมื่อวานนั้น ถือเป็นขั้นตอนในเชิงบวกในกระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ และอาจมีการบรรลุข้อตกลงภายในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 5.1% สู่ระดับ 5.35 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2009 และบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.2% ขณะที่ฟิฟธ์ เธิร์ด แบงก์คอร์ป ทะยานขึ้น 2.8%, หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเจ็ทบลู แอร์เวย์ส หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส และหุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิงส์ ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 2.9%, หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเฟซบู๊ก พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้น Adobe Systems ทะยานขึ้น 3.2%

ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมิ.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.