สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 2 ม.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันแรกของปี 2562 โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.5% ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์สได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อภาคธนาคารของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐ อันเนื่องจากการขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,346.24 จุด เพิ่มขึ้น 18.78 จุด หรือ +0.08% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,510.03 จุด เพิ่มขึ้น 3.18 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,665.94 จุด เพิ่มขึ้น 30.66 จุด หรือ +0.46%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของจีน สหรัฐ และยูโรโซน ชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนธ.ค.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.13% ปิดที่ 337.21 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,689.39 จุด ลดลง 41.30 จุด หรือ -0.87% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,580.19 จุด เพิ่มขึ้น 21.23 จุด หรือ +0.20% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,734.23 จุด เพิ่มขึ้น 6.10 จุด หรือ +0.09%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร ขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 เดือน อย่างไรก็ตาม ตลาดปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit และภาวะชัตดาวน์ในสหรัฐ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,734.23 จุด เพิ่มขึ้น 6.10 จุด หรือ +0.09%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 2.5% เมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า ซาอุดีอาระเบียได้ปรับลดการส่งออกน้ำมันลงในเดือนธ.ค. ขณะที่ข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก ได้เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในเดือนนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 46.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 54.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1284.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 10.9 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 15.649 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.4 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 804.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,198.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตประจำเดือนธ.ค.ของยูโรโซนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1344 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1459 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2609 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2738 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6997 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7048 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.19 เยน จากระดับ 109.67 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3585 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3635 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.9903 ฟรังก์ จากระดับ 0.9824 ฟรังก์

 

Back to top button