Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Tactical Move

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 2.44 จุด (0.16%) ปิดภาคเช้าที่ 1,562.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24,508.34 ล้านบาท

Most Positive Impact: CPALL (+1.54 จุด), AOT (+1.05 จุด), BDMS (+1 จุด)

Most Negative Impact: SCB (-1 จุด), HMPRO (-0.39 จุด), BBL (-0.37 จุด)

แนวโน้มตลาดบ่าย

กลุ่มที่ผลักดันดัชนีในวันนี้ คือ กลุ่มพลังงาน(+2.11 จุด) ขนส่ง(+1.05 จุด) สื่อสาร(+1.09 จุด) โรงพยาบาล(+0.60 จุด) พาณิชย์(+0.47 จุด) เป็นต้น ในขณะที่กลุ่มที่มีการปรับลงมาหลักๆคือกลุ่มธนาคาร(-1.73 จุด) และกลุ่มการเงิน(-0.61 จุด)

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวบวกในขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเคลื่อนไหวบวกลบสลับกันไป เช่น จีน(+1.59%) ฟิลิปปินส์(+1.43%) อินโดนีเซีย(+0.57%) มาเลเซีย(-0.13%) ไต้หวัน(-1.16%) ญี่ปุ่น(-2.59%)

ทางการจีนยืนยันแล้วว่าการเจรจาการค้าของสหรัฐและจีนจะเกิดขึ้นในวันจันทร์นี้โดยรองผู้แทนการค้าสหรัฐ คุณ Jeffrey Gerrish จะนำคณะทำงานไปเยื่อนปักกิ่ง ซึ่งนี่จะเป็นการพูดคุยแบบพบปะกันครั้งแรก โดยมองว่าการพูดคุยครั้งนี้แม้จะไม่ใช่การพูดคุยกันของผู้แทนระดับสูง แต่จะสร้างความคาดหวังต่อตลาดว่าข้อพิพาทการค้าจะยุติลงได้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และบริษัทของสหรัฐเองก็ได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้อย่างเช่นกรณีของบริษัท Apple

ค่าเงินบาทแข็งค่าในรอบ3เดือน อยู่ที่ระดับ 32.05 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเมื่อดูเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้าตราสารหนี้พบว่ามีปริมาณน้อยมาก(สัปดาห์นี้ซื้อสุทธิเพียง 1,354 ล้านบาท) ส่วนตลาดทุนนักลงทุนต่างชาติก็ยังขายสุทธิ ดังนั้นสาเหตุของการแข็งค่ารอบนี้มาจาก Dollar index ที่ปรับตัวลงทำให้ค่าเงินสกุลอื่นๆที่เทียบกับดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจอยู่ในกลุ่มรับเหมาโดยเด่นเรื่องราคาวัตถุดิบที่ลดลง เช่นราคาเหล็กที่ขณะนี้ที่ถูกกดดันจาก demand ในจีนอ่อนแอลง นอกจากนี้การแข็งค่าของเงินบาทจะเอื้อประโยชน์ในการนำเข้าวัตถุดิบ ส่วนโครงการประมูลน่าจะมีเข้ามาต่อเนื่องหลังจากการเลือกตั้ง โดยเลือก STEC เป็นหุ้นเด่น

ประเด็นน่าติดตามในวันนี้ ฝั่งสหรัฐจะมีการรายงานอัตราการว่างงานประจำเดือน ธ.ค. และรายงานสินค้าคงคลังน้ำมันดิบประจำสัปดาห์

หุ้นแนะนำ ADVANC STEC TISCO