PTTEP เด้ง5% โบรกฯเชียร์”ซื้อ” เป้าสูง152บ. คาดกำไรQ4/61 แตะ1.2หมื่นลบ. ทำจุดสูงสุดของปี

PTTEP เด้ง5% โบรกฯเชียร์"ซื้อ" เป้าสูง152บ. คาดกำไรQ4/61 แตะ1.2หมื่นลบ. ทำจุดสูงสุดของปี โดย ณ เวลา 16.24 น. ราคาอยู่ที่ 119 บาท บวก 5.50 บาท หรือ 4.85% สูงสุดที่ 119.50 บาท ต่ำสุดที่ 113 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.51 พันล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ณ เวลา 16.24 น. อยู่ที่ 119 บาท บวก 5.50 บาท หรือ 4.85% สูงสุดที่ 119.50 บาท ต่ำสุดที่ 113 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.51 พันล้านบาท

ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ม.ค.62) แนะนำ “ซื้อ” PTTEP ราคาเป้าหมาย 152 บาท/หุ้น โดยผลประกอบการไตรมาส 4/61 คาดทำจุดสูงสุดของปี หนุนโดยปริมาณขาย และราคาก๊าซฯ ที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามเราปรับลดประมาณการปี 2562 สะท้อนการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบลงเหลือ 65 เหรียญต่อบาร์เรล รวมถึงรวมการปรับปรุงงบลงทุนตามแผนลงทุน 5 ปีใหม่ ส่งผลให้ราคาเป้าหมาย DCF ลดลงเป็น 152 บาท (จาก 160 บาท) จากมุมมองที่เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงแรง สะท้อนความกังวลต่อภาวะอุปทานส่วนเกินไปแล้ว ขณะที่ตลาดจะค่อยๆกลับเข้าสู่สมดุลใหม่ หลังการปรับลดการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ในไตรมาส 1/62 คงคำแนะนำ Trading Buy

ขณะที่คาดกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4/61 เท่ากับ 11,804 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 50.7% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, เพิ่มขึ้น 22.35% จากไตรมาสก่อน) และเป็นจุดสูงสุดในปี 2561 ที่ผ่านมา จากปัจจัยบวกได้แก่ ปริมาณขายและราคาขายก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับต้นทุนผลิตต่อหน่วยลดลง ช่วยชดเชยผลกระทบจากการอ่อนตัวของราคาน้ำมันดิบดูไบ 9.2% จากไตรมาสก่อน เหลือ 67.4 เหรียญต่อบาร์เรล  เราคาดราคาขายเฉลี่ย (ASP) จะเพิ่มขึ้น 4.4% จากไตรมาสก่อน เป็น 49.8 เหรียญต่อ BOE ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 6.6% จากไตรมาสก่อน เป็น 325 KBOED  จากการหยุดซ่อมบำรุงที่ลดลง ช่วยหนุนให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง 2.7% จากไตรมาสก่อน เป็น 32.1 เหรียญต่อ BOE

ทั้งนี้ คาดรายการพิเศษที่สำคัญสำหรับไตรมาสนี้ ได้แก่ กำไรจากการป้องกันความเสี่ยง 1,789 ล้านบาท แต่มีผลขาดทุนจากการกลับรายการทางภาษีจากโครงการมอนทารา 50 ล้านเหรียญ คาดกำไรสุทธิจะปรับตัวขึ้น 18.9% จากไตรมาสก่อน เป็น 12,366 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ปรับปรุงประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 ลง 11.4% เหลือ 39,139 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากการปรับลดสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบลง 7.1% เป็น 65 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ยังคงสมมติฐานราคาน้ำมันระยะยาวที่ 70 เหรียญต่อบาร์เรล นอกจากนั้นเราทำการปรับปรุงเป้าปริมาณขาย และงบลงทุนให้สอดคล้องกับแผนลงทุน 5 ปี (2562-2566) ที่เพิ่งประกาศในช่วงปลายปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นปรับลดกำไรสุทธิปี 2561 ลง 2.1% เป็น 39,543 ล้านบาท สะท้อนรายจ่ายพิเศษจากโครงการมอนทารา

Back to top button