“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้แกว่งขึ้นต่อรับแรงหนุนดัชนีหุ้นไทย Laggard สุดในกลุ่ม TIP

“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้แกว่งขึ้นต่อรับแรงหนุนดัชนีหุ้นไทย Laggard สุดในกลุ่ม TIP ชู 7 หุ้นเด่นน่าเก็บ!


บล.เออีซี ประเมินดัชนีวันนี้ (16ม.ค.62) วันนี้มองดัชนี SET แกว่งทรงตัว และทั้งสัปดาห์ยังลุ้นดัชนีแกว่งขึ้นต่อ วันนี้มีแนวรับ 1,575 จุด และแนวต้าน 1,595 จุด โดยมีแรงหนุนจากดัชนีหุ้นไทย Laggard สุดในกลุ่ม TIP Market (ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์) บวกกับ ปัจจัยจากต่างประเทศมีสัญญาณดีขึ้นจากค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นบ่งชี้คลายความกังวลด้านสงครามการค้า ทั้งนี้วันนี้ต้องจับตารายงานสภาวะเศรษฐกิจไทยจาก World Bank

Investment Strategy

สัปดาห์นี้คาด SET Index จะสามารถยืนในแดนบวก มีแนวต้านที่ 1,595 จุด (Fwd PE 13.9x) โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อกลับจากนักลงทุนต่างชาติ เพราะดัชนีหุ้นไทย Laggard สุดในกลุ่ม TIP Marketโดย Philippines เทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 16.7x, Indonesia เทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 14.7x และ ไทยเทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 13.5x ดังนั้นเรายังคงแนะนำ 3 กลุ่มหุ้นเด่น + 1 กลุ่มกองทุนที่คาดหวังเงินปันผลจากความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดได้สม่ำเสมอดังนี้

กลุ่มดิจิตอลทีวี: มองได้รับSentiment บวกหลังวานนี้ กสทช. มีมติเห็นชอบในหลักการ เกี่ยวกับร่างหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเรียกคืนคลื่นความถี่ 700 MHz มาตรการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทน และหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 700 MHz นำมาประมูลและนำเงินรายได้ไปชดเชยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลบวกกับเม็ดเงินโฆษณาเดือนต.ค.-ธ.ค. โต29.8%YoY แนะนำWORK (คาดเริ่มเห็นกำไรฟื้นตัวYoYในปี62 จากฐานที่ต่ำในปีก่อนจากฐานที่ต่ำในปีก่อน และจุดเด่นด้านความรวดเร็วในการปรับรูปแบบรายการให้ตอบสนองต่อความนิยมของผู้บริโภคนอกจากนี้บริษัทยังฐานะการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ) และ RS (คาดกำไรกลับมาโตเด่นในช่วง 4Q61 หลังปัจจัยลบจากกรณี Magic Skin บรรเทาลงและมีการอัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปีขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีแนวโน้มลดลงจากนโยบายคุมต้นทุนรายการของช่อง 8)

กลุ่มนิคมและสาธารณูปโภค: อานิสงส์บวกทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำ AMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า1 แสน ตรม.), EASTW ปี 62 คาดเห็นการฟื้นตัวของกำไรสอดคล้องไปกับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมในเขต EEC ซึ่งทำให้ความต้องการใช้น้ำดิบในบริเวณดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นนอกจากนี้ในระยะยาวบริษัทยังมุ่งเพิ่มสัดส่วนจำหน่ายน้ำควบคุมคุณภาพ (มาร์จิ้นสูง) มากขึ้นโดยเซ็นสัญญาให้บริการแก่GULF (รับรู้รายได้ปี 63) และ AMATA (รับรู้รายได้ปี 64)

หุ้นขนาดเล็กที่คาดกำไรปี 62 โตเด่นบวกกับ Cheap Valuation ได้แก่ JMT (แนวโน้มกำไรโตต่อเนื่อง และบริษัทประกาศซื้อหนี้ไม่มีหลักประกันชุดใหม่มาบริหารมูลค่า 1 พัน ลบ. มีแผนเพิ่มสัดส่วนหนี้มีหลักประกัน หนุนยอดหนี้แตะ 1.4 แสน ลบ.และมีความสามารถในการจัดเก็บหนี้ที่อยู่ในเกณฑ์ดี), SKN (ช่วง 4Q61 คาดกำไรโตเด่นจากการรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากเครื่องจักรไลน์ที่ 2 เพื่อรองรับคำสั่งซื้อส่วนเกินจากลูกค้าเดิม และตอบสนองความต้องการจากลูกค้ากลุ่มใหม่ในต่างประเทศ)

กองทุนที่มีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดได้สม่ำเสมอ: ได้แก่ TFFIF (ประมาณการเงินที่สามารถปันส่วนแบ่งให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสำหรับปี 61/62 ราว 0.475 บาท/หน่วย+ความเสี่ยง 7/8)(ที่มา:Filing), POPF (อัตราเงินปันผลในอดีตที่ 7.55%+ความเสี่ยง 6/8) QHPF (อัตราเงินปันผลในอดีตที่ 6.51%+ความเสี่ยง 6/8), BTSGIF (อัตราเงินปันผลในอดีตที่  6.82%+ความเสี่ยง 7/8), CPNCG (อัตราเงินปันผลในอดีตที่ 6.31%+ความเสี่ยง 7/8), CPTGF (อัตราเงินปันผลในอดีตที่  6.03%+ความเสี่ยง 6/8)

Back to top button