สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 17 ม.ค. 2562
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหารือกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยมีเป้าหมายที่จดลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,370.10 จุด เพิ่มขึ้น 162.94 จุด หรือ +0.67% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,084.46 จุด เพิ่มขึ้น 49.77 จุด หรือ +0.71% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,635.96 จุด เพิ่มขึ้น 19.86 จุด หรือ +0.76%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) หลังจากธนาคารโซซิเอเต เจเนราล (ซอคเจน) ของฝรั่งเศส ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 4/2561 ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นธนาคารรายอื่นๆร่วงลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายในช่วงที่สถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ยังคงไม่ชัดเจน
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,918.62 จุด ลดลง 12.62 จุด หรือ -0.12% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,794.37 จุด ลดลง 16.37 จุด หรือ-0.34% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,834.92 จุด ลดลง 27.76 จุด หรือ -0.40%
ส่วนดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นเพียง 0.04% ปิดที่ระดับ 350.73 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายในช่วงที่สถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ยังคงไร้ทิศทาง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,834.92 จุด ลดลง 27.76 จุด หรือ -0.40%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อทองคำเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,292.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 10.2 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 15.536 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 812.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 29.70 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1348.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สหรัฐผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกปรับตัวลดลงในเดือนธ.ค.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 52.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 61.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลงสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.26 เยน จากระดับ 108.92 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9937 ฟรังก์ จากระดับ 0.9906 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3266 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3249 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1390 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1398 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2987 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2870 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7200 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7176 ดอลลาร์สหรัฐ