TSTH รายได้ลดฮวบ ฉุดงบไตรมาส 3/61 พลิกขาดทุน 178.59 ลบ.

TSTH รายได้ลดฮวบ ฉุดงบไตรมาส 3/61 พลิกขาดทุน 178.59 ลบ. จากปีก่อนกำไร 240.23 ลบ. ขณะที่งวด 9 เดือนพลิกขาดทุนมาที่ 71.62 ลบ. จากปีก่อนกำไร 379.59 ลบ.


บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.61 ดังนี้

โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวพลิกขาดทุน เนื่องจาก ตลาดผลิตภัณฑ์เหล็กก่อสร้างทรงยาวในประเทศยังคงซบเซาจากความต้องการสินค้าที่ลดลง ราคาสินค้าสำเร็จรูปและเหล็กแท่งในต่างประเทศปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 เป็นผลให้ลูกค้าเกิดความลังเลที่จะสั่งซื้อสินค้า เนื่องจากคาดการณ์ว่าราคาสินค้าจะปรับตัวลดลงอีก ประกอบกับในเดือนธันวาคมมีวันหยุดตามเทศกาลหลายวันส่งผลให้ลูกค้าปลายทางและตัวแทนจำหน่ายสอบถามข้อมูลและส่งคำสั่งซื้อลดลงไตรมาสที่ผ่านมา NTS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2561 ประเภทการบริหารงานคุณภาพจากนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ปริมาณการขายสินค้าในไตรมาสนี้ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนและลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความเชื่อมั่นของตลาดในประเทศลดลงประกอบกับเหตุผลตามที่กล่าวมาข้างต้น

อย่างไรก็ตามปริมาณการขายสินค้าในประเทศที่ลดลงบางส่วนได้รับการชดเชยด้วยปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของสินค้าเหล็กเส้นไปที่ส่งไปยังประเทศกัมพูชา อินเดีย ลาว และการส่งออกเหล็กลวดไปยังประเทศอินโดนีเซีย ปริมาณการขายสินค้าในช่วง 9 เดือนของปีการเงิน 2562 ต่ำกว่าปีก่อนร้อยละ 6 เนื่องจากความเชื่อมั่นในตลาดโครงการก่อสร้างในประเทศลดลง

ในขณะเดียวกันบริษัทมียอดขายสินค้าในช่องทางค้าปลีกเพิ่มขึ้นและมีปริมาณยอดขายสินค้าเหล็กลวดในประเทศคงเดิม ยอดขายสุทธิในไตรมาสนี้ลดลง 6% จากไตรมาสก่อนเนื่องจากความเชื่อมั่นในตลาดภายในประเทศอ่อนแอลง ส่งผลให้ราคาขายสินค้าลดลง ยอดขายสุทธิในช่วง 9 เดือนเมื่อเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้น 4% สาเหตุหลักมาจากราคาสินค้าสำเร็จรูปที่สูงขึ้นในช่วงเดือนเมษายน – ตุลาคม ซึ่งส่วนหนึ่งชดเชยกับปริมาณขายในประเทศที่ลดลง

โดยบริษัทรายงานผลขาดทุนจำนวน 196 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เนื่องจากความเชื่อมั่นในตลาดที่ตกต่ำจากความต้องการสินค้าที่ลดลงและราคาสินค้าในต่างประเทศที่ลดลงตามที
่อธิบายไว้ข้างต้น ผลกระทบนี้มีความสำคัญในไตรมาสนี้เนื่องจากบริษัทนำเข้าวัตถุดิบในปริมาณมากและมีระยะเวลาในการรอรับสินค้ายาวนาน

อีกทั้งการเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่เตาหลอมไฟฟ้าของ SCSC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561 การหยุดชะงักของการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่เกี่ยวข้องได้ส่งผลต่อการลดลงของกำไรของบริษัทด้วย สำหรับรอบระยะเวลา 9 เดือนของปีการเงิน 2562 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 55 ล้านบาท

Back to top button