ตร.ออกหมายเรียก “ณพ-แม่ยาย” พบ 29 ม.ค. เซ่นปลอมเอกสารหุ้น WEH ระบุไม่มา จับแน่!
ตร.ออกหมายเรียก “ณพ-แม่ยาย” พบ 29 ม.ค. เซ่นปลอมเอกสารหุ้น WEH ระบุไม่มาจับแน่!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.62 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อออกหมายเรียก นายณพ ณรงค์เดช รองประธานคณะกรรมการ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พุทธศักราช 2477 มาตรา 52 ในคดีความระหว่าง นายเกษม ณรงค์เดช บิดานายณพ ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา ฐานความผิด ปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียก คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา มารดาของ นางพอฤทัย ณรงค์เดช ภรรยานายณพ ในคดีเดียวกัน
โดยกำหนดวันให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 29 ม.ค. 62 เวลา 13.00 น. และ 14.30 น. สำหรับนายณพ และ คุณหญิงกอแก้ว ตามลำดับ
ทั้งนี้ มีการระบุตามหมายเรียกว่า หากนายณพ ณรงค์เดช และ คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามวันเวลาที่นัดหมาย พนักงานสอบสวนจะขอให้ศาลออกหมายจับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 ต่อไป
อนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายเกษม ณรงค์เดช ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มบริษัท เคพีเอ็น จำกัด บิดาของนายณพ เคยแถลงข่าวกรณีการฟ้องร้อง เนื่องจากตนถูกปลอมแปลงลายเซ็น ในการทำธุรกรรมหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH
โดยมีการบันทึกคลิปวิดีโอเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการฟ้องร้อง ซึ่งระบุว่า
“ข้าพเจ้า นายเกษม ณรงค์เดช ตอนนี้อายุ 83 ปี เกิดใน พ.ศ.2479 เดือนเมษายน วันที่ 24 ปัจจุบันนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่มีการปลอมลายเซ็นของข้าพเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ และ บริษัท โกลเด้นมิวสิคที่ฮ่องกง ครั้งแรกนึกว่าจะมีอยู่นิดหน่อย แต่ว่ายิ่งนานเข้ายิ่งรู้สึกว่ามันจะมีเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเอกสารเหล่านั้นข้าพเจ้าไม่เคยเห็นและไม่เคยเซ็นมาก่อน ก็อยากจะขอให้เก็บข้อมูลนี้ไว้ เผื่อจะมีผู้ที่ไม่ประสงค์ดี กระทำการปลอมลายเซ็นอีกต่อไป”
ดังนั้น จึงเป็นที่น่าตั้งข้อสังเกตว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียก นายนพ และคุณหญิงกอแก้ว ในข้อกล่าวหาปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม จะเป็นกรณีเดียวกับที่ก่อนหน้านี้ นายเกษม ณรงค์เดช ได้ออกมาแถลงข่าวในกรณีถูกปลอมแปลงลายเซ็นในการโอนหุ้น WEH ให้กับ คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา หรือไม่
ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าประการใด “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จะรายงานให้ทราบต่อไป