STEC บวกต่อเฉียด 4% รับผลดีเลือกตั้งชัดเจน ลุ้นรับงานเพิ่ม โบรกฯชี้ไตรมาส 4 พลิกกำไร
STEC บวกต่อเฉียด 4% รับผลดีเลือกตั้งชัดเจน ลุ้นรับงานเพิ่ม โบรกฯชี้ไตรมาส 4 พลิกกำไร แนะซื้อเป้า 28.50 บ. ล่าสุด ณ เวลา 15.39 น. อยู่ที่ 22.10 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 3.76% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 567.52 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC ล่าสุด ณ เวลา 15.39 น. อยู่ที่ 22.10 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 3.76% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 567.52 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น STEC ปรับตัวขึ้น หลังประเด็นการเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้น โดย STEC มีโอกาสได้รับงานเพิ่มจากการสานต่อนโยบายของรัฐบาลใหม่ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบ เช่น เหล็กที่อยู่ในระดับต่ำ
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” STEC ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท/หุ้น คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/61 อยู่ที่ 313 ล้านบาท ดีขึ้นจากไตรมาส 4/60 ที่ขาดทุนจากการตั้งสำรอง 2 โครงการ แต่อ่อนตัว 18% เทียบจากไตรมาสก่อน จาก SG&A ที่คาดสูงขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่ถูกกดดันด้วยการเร่งรับรู้งานที่ไม่มีกำไรอย่างรัฐสภา ส่วนรายได้คาดยังอยู่ในระดับสูงตามความคืบหน้าของงานที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ไม่กังวลหาก STEC ไม่ชนะประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เนื่องจากมีงานในมือสูงกว่า 1.14 แสนล้านบาท รองรับรายได้ไปอีก 3 ปี พร้อมคาดหวังงานใหม่เข้ามาเติมอีก 3-4 หมื่นล้านบาท ราคาหุ้นปรับลง 11% หลังเปิดซองรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน สะท้อนความผิดหวังไปแล้ว มูลค่าหุ้นปัจจุบันน่าสนใจ เทรดบน PBV19 ที่ 2.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 4 เท่า ไม่สอดคล้องกับผลประกอบการที่เป็นขาขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจากการผลักดันงานประมูลจำนวนมาก และเป็นหนึ่งหุ้นใน Theme Election Play
ล่าสุด ประกาศรับงานใหม่เป็นงานก่อสร้างอาคารรสา เพชรบุรี มูลค่า 1.46 พันล้านบาท หนุนให้ปัจจุบันมี Backlog กว่า 1.14 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มีมาร์จิ้นดี อาทิ รถไฟฟ้า และโรงไฟฟ้า ประกอบกับราคาวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มต่ำลงตามราคาน้ำมัน โดยเฉพาะดัชนีราคาเหล็กที่ปรับลงมากสุดในรอบ 1 ปีราว 3.5% เทียบจากปีก่อน ทำให้มองว่าแม้มีโครงการรัฐสภาใหม่มาฉุด แต่บริษัทยังทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ 8% ในปี 2562
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รับงานใหม่เข้ามาเติมอีกมากจากการประมูลงานของภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชนที่ขยายตัว โดยบริษัทคาดหวังรับงานเพิ่มในปีนี้ราว 3-4 หมื่นล้านบาท มากกว่าปี 2561 ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-2562 ที่ 1.3 พันล้านบาท (พลิกจากขาดทุน 611 ล้านบาทในปี 2017) และ 1.6 พันล้านบาท (โต 26% เทียบจากปีก่อน) ตามลำดับ