หุ้นเอเชียเขียวยกแผง ขานรับสหรัฐฯเปิดทำการวันแรกหลังชัตดาวน์นาน 35 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลงนามร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลับมาเปิดดำเนินงานอีกครั้ง และมีงบประมาณในการบริหารงานจนถึงวันที่ 15 ก.พ.

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,746.29 จุด ลดลง 27.27 จุด, -0.13% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,615.71 จุด เพิ่มขึ้น 13.99 จุด, +0.54% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,695.81 จุด เพิ่มขึ้น 126.62 จุด, +0.46% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,006.46 จุด เพิ่มขึ้น 36.85 จุด, +0.37% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,184.41 จุด เพิ่มขึ้น 6.68 จุด, +0.31% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,203.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด, +0.05% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,705.41 จุด เพิ่มขึ้น 4.38 จุด, +0.26% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 8,071.12 จุด เพิ่มขึ้น 17.92 จุด, +0.22%

ด้าน ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลับมาเปิดดำเนินงานอีกครั้ง และมีงบประมาณในการบริหารงานจนถึงวันที่ 15 ก.พ. ภายหลังจากที่วุฒิสภาได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว และสภาผู้แทนราษฎรก็ได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน

สำหรับ การลงนามขั้นสุดท้ายของปธน.ทรัมป์ ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐกลับมาเปิดทำการในวันนี้ และเป็นการยุติภาวะชัตดาวน์ 35 วัน ซึ่งยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ดี ร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวไม่รวมงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก และในช่วงเวลา 3 สัปดาห์หลังจากนี้ แกนนำของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาเพื่อจัดทำร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณสำหรับความมั่นคงมาตุภูมิ ซึ่งปธน.ทรัมป์หวังว่าจะมีการบรรจุงบประมาณ 5.7 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกตามข้อเรียกร้องของเขา

อนึ่งก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์พูดอย่างชัดเจนว่า ถ้าหากการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันประสบความล้มเหลว รัฐบาลก็จะปล่อยให้เกิดภาวะชัตดาวน์อีกครั้งในวันที่ 15 ก.พ. หรือปธน.ทรัมป์อาจใช้อำนาจประธานาธิบดีประกาศภาวะฉุกเฉิน และออกกฎหมายอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 29-30 ม.ค.นี้ หลังจากที่วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดจะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการยุติการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟด ในการประชุมครั้งนี้

โดยนักลงทุนจับตาปัจจัยดังกล่าวเนื่องจากจะเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงินนานเท่าใด