สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 28 ม.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างรายใหญ่ระดับโลก เปิดเผยกำไรที่ต่ำกว่าคาด และบริษัท Nvidia Corp ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ปรับลดตัวเลขคาดการณ์รายได้ประจำไตรมาส 4/2561 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า สหรัฐอาจเผชิญกับภาวะชัตดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้นำสภาคองเกรสในประเด็นการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,528.22 จุด ร่วงลง 208.98 จุด หรือ -0.84% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,643.85 จุด ลดลง 20.91 จุด หรือ -0.78% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ ปิดที่ 7,085.68 จุด ลดลง 79.18 จุด หรือ -1.11%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างรายใหญ่ระดับโลก และ Nvidia Corp ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่  29-30 ม.ค.นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.97% ปิดที่ 354.38 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,888.58 จุด ลดลง 37.24 จุด หรือ -0.76% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,210.31 จุด ลดลง 71.48 จุด หรือ -0.63% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,747.10 จุด ลดลง 62.12 จุด หรือ -0.91%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้นเทสโก้ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของอังกฤษ หลังจากบริษัทประกาศแผนปรับลดจำนวนพนักงาน ขณะที่นักลงทุนจับตาการโหวตร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,747.10 จุด ลดลง 62.12 จุด หรือ -0.91%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) โดยสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนสัญญาทองคำเช่นกัน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,303.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 6.6 เซนต์ หรือ 0.42% ปิดที่ 15.765 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 3.80 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 814.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 30.50 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1289.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า สหรัฐเพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมันเป็นครั้งแรกในปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันด้วยเช่นกัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.70 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 51.99 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 59.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้และสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.35 เยน จากระดับ 109.63 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9916 ฟรังก์ จากระดับ 0.9929 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3256 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3228 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1427 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1414 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3157 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3197 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7165 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7178 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button