คัด 24 หุ้นเด่นเน้นกลุ่ม Big-Mid-Small Cap ยีลด์สูง-อัพไซด์หรู! เป้า Fund Flow ไหลเข้า

คัด 24 หุ้นเด่นเน้นกลุ่ม Big-Mid-Small Cap ยีลด์สูง-อัพไซด์หรู! เป้า Fund Flow ไหลเข้า


ภายหลังจากคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) ได้เคาะวันเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. 2562 ชัดเจน ตลาดหุ้นไทยได้ตอบรับปัจจัยดังกล่าวชัดเจนโดยเห็นได้จากดัชนีกลับมายืนเหนือระดับ 1600 จุดอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนให้ Fund Flow ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง

ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบรวมกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีในช่วง Fund Flow ไหลเข้า มานำเสนอโดยครั้งนี้เน้นที่กลุ่มหุ้นพื้นฐานดีใน SET100 ที่มีราคาปรับลดลงมาแรงก่อนหน้านี้จากการรับรู้ปัจจัยลบเฉพาะตัวจนทำให้มีราคากลับมาน่าสนใจด้วย upside ที่สูงขึ้น

ขณะเดียวกันแนะนำกลยุทธ์ลงทุนเน้น 2H18 Dividend Play โดยคัดหุ้นที่อัตราปันผลสูงกว่า 3% และพื้นฐานเด่น Big Cap High Yield และ Mid-Small Cap High Yield โดยอาศัยบทวิเคราะห์จากบล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี และบล.โนมูระ พัฒนสิน มาประกอบการเข้าลงทุนดังนี้

บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์(25ม.ค.) ว่า กลยุทธ์ เมื่อมีการกำหนดวันเลือกตั้งที่แน่นนอนในวันที่ 24 มี.ค. 2019 ตลาดหุ้นไทยก็เริ่มตอบสนองในเชิงบวกกับข่าวดังกล่าว หลังรอคอยมายาวนาน หากมาดูปฎิกิริยาของดัชนีตลาดหุ้นไทยกับกลุ่มอุตสาหกรรมในช่วงก่อนเลือกตั้ง 60 45 และ 30 วัน พบว่าให้ผลในเชิงบวกคือปรับตัวขึ้น

ช่วงนี้ตลาดรอข่าวการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนรวมทั้ง MSCI จะประกาศน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หากออกมาในเชิงบวก ก็น่าจะทำให้บรรยากาศการลงทุนในช่วงครึ่งเดือนแรกของก.พ. คึกคัก

Themes play : IVL TRUE PTTGC TKN BJC KCE DTAC BEAUTY : แนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นพื้นฐานดีใน SET100 ที่มีราคาปรับลดลงมาแรงก่อนหน้านี้จากการรับรู้ปัจจัยลบเฉพาะตัวจนทำให้มีราคากลับมาน่าสนใจด้วย upside ที่สูงขึ้น โดยพิจารณาจาก 1) หุ้นพื้นฐานดีใน SET100 2) มี upside สูงกว่า 20% และ 3) มีระดับ RSI 14 วัน (เป็นเครื่องมือชี้วัดโมเมมตัมของราคาหุ้น) ต่ำกว่า 50 เทียบกับ SET ที่มี RSI 61.28  โดยพบว่ามีหุ้นที่น่าสนใจประกอบไปด้วยดังนี้

IVL (RSI 33.08) มี upside 25% จากราคาเป้าหมายของที่ 59.80 บาท

TRUE (RSI 36.69) มี upside 40% จากราคาเป้าหมายของที่ 6.75 บาท

PTTGC (RSI 41.37) มี upside 38% จากราคาเป้าหมายของที่ 95 บาท

TKN (RSI 42.21) มี upside 56% จากราคาเป้าหมายของที่ 12.10 บาท

BJC (RSI 43.64) มี upside 46% จากราคาเป้าหมายของที่ 70.00 บาท

KCE (RSI 45.55) มี upside 29% จากราคาเป้าหมายของที่ 35.50 บาท

DTAC (RSI 47.17) มี upside 35% จากราคาเป้าหมายของที่ 57.70 บาท

BEAUTY (RSI 48.01) มี upside 31% จากราคาเป้าหมายของที่ 9.30 บาท

 

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า CNS Daily Strategy: คาดตลาด “แกว่งบวก” ต้าน 1633/1637จุด รับ 1617/1609จุด ดาวโจนส์ปรับตัวลง หลัง 2 บริษัทใหญ่รายงานงบต่ำคาด ผสานราคาน้ำมันดิบปรับฐานแรง ตอบรับจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้น กดดันกลุ่มพลังงานถ่วงตลาด

แต่อย่างไรก็ดีค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า จากแนวโน้มที่ FED จะส่งสัญญาณผ่อนคลายในการประชุม FOMC 29-30 ม.ค.นี้ กระตุ้นค่าเงินเอเชียแข็งค่า หนุน Fund Flows ไหลเข้าเอเชีย 14 ใน 16 วัน รวม 6,563 ล้านเหรียญ และไหลเข้าไทย 3 วันติด กว่า 201 ล้านเหรียญ บวกต่อเอเชียและไทย

โดยแนะกลยุทธ์ลงทุนเน้น 2H18 Dividend Play คัดหุ้นที่อัตราปันผลสูงกว่า 3% และพื้นฐานเด่น Big Cap High Yield แนะนำ TISCO, IRPC, QH, KKP, PTTGC, KTB, LH และ Mid-Small Cap High Yield : ROJNA, SPRC, SIRI, SC, AP, DCC, GFPT, NYT, SPA, SNC

อนึ่ง หุ้น Big/Large cap – เป็นประเภทของหุ้นที่มีมูลค่าตลาด ระหว่าง 1 หมื่นล้านถึง 2 แสนล้าน บริษัทชั้นนำส่วนใหญ่จะตกอยู่ในกลุ่มนี้ เช่น TRUE HMPRO ITD โดยทั่วไปหุ้นในกลุ่ม Large cap จะมีความมั่นคงสูง เช่นเดียวกัน Mega cap ทั้งสองกลุ่มจะถูกเรียกอีกชื่อว่า Blue chip.

ส่วน Mid cap –  เป็นประเภทของหุ้นที่มีมูลค่าตลาดระหว่าง 2 พันล้านถึง 1 หมื่นล้าน และโดยทั่วไปจะมีความเสี่ยงที่สูงกว่าสองกลุ่มก่อนหน้า หุ้นในกลุ่ม Growth stock หรือ บริษัทที่มีการเติบโตสูงมักจะตกอยู่ใน Mid cap แม้บริษัทส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้จะไม่ใช้ผู้นำตลาด แต่อาจจะกำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้นำได้

ด้านหุ้น Small cap – โดยทั่วไปจะเป็นบริษัทใหม่ และความมูลค่าตลาด ระหว่าง 300 ล้านถึง 2 พันล้าน แม้โดยทั่วไปบริษัทในกลุ่มนี้จะมีข้อมูลย้อนหลังที่สั้น หุ้นในกลุ่ม Small cap อาจจะให้ผลตอบแทนที่สูงมากจากการเติบโตที่ก้าวกระโดด แต่ความเสี่ยงก็จะสูงมากเช่นกัน

ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button