สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 30 ม.ค. 2562
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงโบอิ้ง และแอปเปิล อิงค์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,014.86 จุด พุ่งขึ้น 434.90 จุด หรือ +1.77% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,681.05 จุด เพิ่มขึ้น 41.05 จุด หรือ +1.55% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,183.08 จุด เพิ่มขึ้น 154.79 จุด หรือ +2.20%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.36% ปิดที่ 358.51 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,974.76 จุด เพิ่มขึ้น 46.59 จุด หรือ +0.95% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,941.63 จุด เพิ่มขึ้น 107.70 จุด หรือ +1.58% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,181.66 จุด ลดลง 37.17 จุด หรือ -0.33%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ที่ดีดตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,941.63 จุด เพิ่มขึ้น 107.70 จุด หรือ +1.58%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา ซึ่งจะส่งผลให้เวเนซุเอลาเผชิญอุปสรรคในการส่งออกน้ำมันไปต่างประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 54.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 61.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,315.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 8.8 เซนต์ หรือ 0.56% ปิดที่ 15.927 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 816.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 12.80 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1316.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังจากที่ประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.93 เยน จากระดับ 109.27 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9941 ฟรังก์ จากระดับ 0.9950 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3148 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3283 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1481 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1427 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3112 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3100 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7254 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7148 ดอลลาร์สหรัฐ