กกต.เตรียมตั้งคณะกรรมการไต่สวน “ไทยรักษาชาติ” ชี้ชะตาปมยุบพรรค

กกต.เตรียมตั้งคณะกรรมการไต่สวน “ไทยรักษาชาติ” ชี้ชะตาปมยุบพรรค


รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ กกต.จะมีการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการ ซึ่งเป็นตัวแทนของกกต.แต่ละคนเพื่อทำหน้าที่ไต่สวนกรณีมีคำร้องให้ตรวจสอบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ในประเด็นการเสนอบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคว่าเข้าข่ายผิดมาตรา 92 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 เป็นเหตุต้องยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งอาจต้องมีผู้เชี่ยวชาญ หรือนักกฎหมายจากภายนอกเข้าร่วมพิจารณาไต่สวนด้วย

ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.วานนี้ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ในประเด็นข้อกฎหมาย แต่ตนเองไม่ได้อยู่ในที่ประชุม เพราะติดภารกิจภายนอก ทราบแต่เพียงว่าประธาน กกต.จะเป็นผู้ให้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องพรรคการเมือง เช่นเดียวกับเรื่องการตั้งคนนอกร่วมเป็นคณะกรรมการไต่สวนพรรค ทษช.ก็ทราบจากรายงานข่าว ซึ่งคงต้องรอการประชุมของ กกต.ก่อน แต่แนวทางเดิมก็เคยมีการตั้งคนนอกมาร่วมเป็นกรรมการไต่สวน และ กกต.จะเป็นผู้เสนอรายชื่อผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นกรรมการไต่สวน

สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้น เมื่อมีการร้องเรียนเข้ามาก็จะมีการสอบสวนเบื้องต้นว่าคำร้องมีมูลสามารถดำเนินการต่อไปได้หรือไม่ หากเห็นว่ามีมูลก็จะเสนอ กกต.ตั้งคณะกรรมการไต่สวนเพื่อสอบสวน ซึ่งก็สามารถใช้คนนอกเข้ามาร่วมได้

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง เมื่อปิดรับสมัคร ส.ส.ไปแล้ว โรงพิมพ์จะเริ่มดำเนินการ โดยจะพิมพ์บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรก่อนเป็นอันดับแรก และเริ่มทยอยส่งทันที จากนั้นจะจัดพิมพ์บัตรที่จะใช้ในการออกเสียงล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค.และใช้ในวันเลือกตั้ง 24 มี.ค.ตามลำดับ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดทันกับการเลือกตั้งช่วงเวลาต่างๆ แน่นอน

ขณะนี้อยากขอให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่รู้ตัวว่าติดภารกิจในวันเลือกตั้งหรือไม่สามารถจะไปเลือกตั้งได้ ให้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มี.ค.โดยยังสามารถลงทะเบียนผ่านทางอินเทอร์เนตถึงวันที่ 19 ก.พ.นี้ เพราะผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง มาตรา 35 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ได้จำกัดสิทธิไว้บางประการเป็นเวลา 2 ปี เช่น ไม่สามารถลงสมัคร ส.ส., สมัครผู้บริหารหรือสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รับราชการไม่ได้ หรือเป็นข้าราชการการเมือง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ไมได้ ซึ่งมีผลกระทบค่อนข้างมาก

Back to top button