สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 21 ก.พ. 2562
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน จากรายงานข่าวที่ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มคืบหน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,850.63 จุด ลดลง 103.81 จุด หรือ -0.40% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,774.88 จุด ลดลง 9.82 จุด หรือ -0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,459.71 จุด ลดลง 29.36 จุด หรือ -0.39%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของฝั่งยุโรปและสหรัฐ รวมถึงผลประกอบการที่อ่อนแอเป็นปัจจัยลบกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้
ดัชนี Stoxx Europe ลบ 0.28% ปิดที่ 370.41 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,196.11 จุด เพิ่มขึ้น 0.17 จุด หรือ +0.00% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,423.28 จุด เพิ่มขึ้น 21.31 จุด หรือ +0.19% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,167.39 จุด ลดลง 61.23 จุด หรือ -0.85%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) เนื่องจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ รวมถึงการเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะที่การซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างระมัดระวัง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนม.ค.เมื่อวันพุธ ซึ่งบ่งชี้ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,167.39 จุด ลดลง 61.23 จุดหรือ -0.85%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค. ซึ่งระบุถึงแผนยุติการปรับลดงบดุลของเฟด นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 20.10 ดอลลาร์ หรือ 1.49% ปิดที่ 1,327.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 37.60 เซนต์ หรือ 2.32% ปิดที่ 15.801 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7.90 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 826.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 17.00 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1445.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ขณะที่การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 56.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ขยับลง 1 เซนต์ ปิดที่ 67.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้าในสัปดาห์นี้
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.16% แตะที่ระดับ 96.6049 เมื่อคืนนี้