BTS เสนอตัวลงทุนพัฒนาพื้นที่ กม.11 ของร.ฟ.ท. เงินลงทุนกว่า 1 หมื่นลบ.

BTS เสนอขอลงทุนพัฒนาที่ดินบริเวณ กม.11 ถนนกำแพงเพชร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จำนวน 359 ไร่ มีวงเงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยกรณีนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS พร้อมคณะผู้บริหาร BTS เข้าพบ วานนี้ (25 มิ.ย.) ว่า BTS เสนอขอลงทุนพัฒนาที่ดินบริเวณ กม.11 ถนนกำแพงเพชร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จำนวน 359 ไร่ มีวงเงินลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท

โดยแบ่งดำเนินงานเป็น 4 แผนงาน ได้แก่ 1. สร้างคอนโดมิเนียมจำนวน 5,000 ยูนิต สำหรับครอบครัวพนักงาน ร.ฟ.ท.อยู่อาศัยฟรี โดยแบ่งเป็น 2 ขนาด คือขนาด 42 ตารางเมตร และ 56 ตารางเมตร 2. จัดสรรพื้นที่ค้าขายให้กับผู้ค้าเดิม 3. จัดสรรพื้นที่สวนสาธารณะ 4. จัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลาง และเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อให้ BTS หารายได้ชดเชยการลงทุน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60%-70% ของพื้นที่ทั้งหมด พร้อมทั้ง BTS จะลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) เพื่อบริการในพื้นที่กม. 11 เชื่อมกับพื้นที่ใกล้เคียง เช่น สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อและจตุจักร และบางซื่อ

ส่วนข้อเสนอด้านการรับเดินรถสินค้าในเส้นทางขอนแก่น-มาบตาพุด จ.ระยอง รถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร (Meter Gauge) ซึ่ง BTS เสนอแบ่งสัดส่วนการเดินรถกับ ร.ฟ.ท. พร้อมทั้งมีค่าตอบแทนให้ ร.ฟ.ท. รวมทั้งจะมีการจัดหารถจักรแบบดีเซลและแบบไฟฟ้ามาให้ ร.ฟ.ท.เช่าใช้ด้วย 

โดยทั้ง 2 ข้อเสนอจะเป็นการร่วมทุนรูปแบบ PPP ซึ่งการลงทุนพัฒนาพื้นที่ กม. 11 มีแนวโน้มที่จะได้ข้อสรุปเร็วกว่า โดยยังมีเงื่อนไขการลงทุน และการชดเชยที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เวลา BTS 10 วัน ไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม และมานำเสนออีกครั้ง ส่วนเรื่องการเดินรถสินค้า เพราะมีรายละเอียดเยอะมากที่ต้องใช้เวลาพิจารณาให้รอบคอบ

ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร  ผู้ว่า ร.ฟ.ท. กล่าวว่า เรื่องเดินรถสินค้านั้นเป็นแผนที่ ร.ฟ.ท. เตรียมดำเนินการอยู่แล้ว  ซึ่งยอมรับว่า BTS มีข้อเสนอจูงใจ เพราะการันตีรายได้ขั้นต่ำให้กับ ร.ฟ.ท. แลกกับสัญญาสัมปทาน 50 ปี ซึ่งกรณีที่ BTS มานำเสนอแผนงานไม่ได้หมายความว่า ร.ฟ.ท.จะยกให้ได้เลยเพราะยังมีเรื่องที่อาจจะขัดกับระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างด้วย และอาจจะเป็นเรื่อง ร.ฟ.ท.เอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายเดียว ดังนั้นหลังจากการหารือร่วมกันได้ข้อยุติแล้ว ร.ฟ.ท.ก็ต้องทำการว่าจ้างที่ปรึกษา เพื่อเปิดประกวดราคาต่อไป

Back to top button