TRC รูดหนัก 12% นิวโลว์รอบ 6 ปี เซ่นงบฯปี 61พลิกขาดทุน 2 พันลบ. ฉุดส่วนทุนเหลือ 732 ลบ.
TRC รูดหนัก 12% นิวโลว์รอบ 6 ปี เซ่นงบฯปี 61พลิกขาดทุน 2 พันลบ. จากปีก่อนกำไร 92.78 ลบ. ฉุดส่วนทุนเหลือ 732 ลบ. ล่าสุด ณ เวลา 10.08 น. อยู่ที่ 0.36 บาท ลบ 0.05 บาท หรือ 12.20% สูงสุดที่ 0.39 บาท ต่ำสุดที่ 0.36 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 21.51 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC ล่าสุด ณ เวลา 10.08 น. อยู่ที่ 0.36 บาท ลบ 0.05 บาท หรือ 12.20% สูงสุดที่ 0.39 บาท ต่ำสุดที่ 0.36 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 21.51 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น TRC ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.36 บาท เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2555 หลังรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2561 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2561 พลิกขาดทุน 2 พันล้านบาท ดังนี้
โดยผลการดำเนินงานประจำปี 2561 พลิกขาดทุน เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่บริษัทฯ ดำเนินการเกี่ยวกับโครงการเหมืองแร่โปแตซ การตั้งหนี้สูญและสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนและส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม รวมเป็นมูลค่าที่กระทบต่องบการเงินรวมจำนวน 2,093.76 ล้านบาท ซึ่งหากไม่พิจารณารวมรายการดังกล่าว ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทร่วมจะมีกำไรสุทธิ 53.19 ลานบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 2.31
ทั้งนี้ ขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุน 1,212.73 ล้านบาท ตามที่ในปี 2555 – 2559 บริษัทฯ ให้เงินกู้ยืมแก่ทีอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ทและ ทีอาร์ซี อินเวสเม้นท์ ลิมิเต็ท (บริษัทย่อย) เพื่อลงทุนหุ้นสามัญของบริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) (APOT) รวมจำนวน 7.05 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.13 ของทุนที่ชำระแล้วของ APOT ผลประกอบการของ APOT ที่ผ่านมามีผลขาดทุนต่อเนื่องประกอบกับความล่าช้าของแผนการพัฒนาโครงการเหมืองแร่โปแตซที่ยังมีความไม่แน่นอนจากการได้รับเงินทุนสนับสนุน จึงเป็นเหตุให้เกิดข้อบ่งชี้ของการด้อยค่าที่มีนัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าที่จะได้รับคืนของเงินลงทุนในบริษัทร่วม บริษัทฯ จึงพิจารณาตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทร่วมทั้งจำนวน
ด้านหนี้สูญ และค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 365.69 ล้านบาท เป็นการบันทึกหนี้สูญ และค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของยอดคงเหลือที่เกี่ยวข้องกับโครงการ APOT ได้แก่ ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น ลูกหนี้เงินประกันผลงานตามสัญญาก่อสร้าง และรายได้ที่ยังไม่เรียกชำระ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในการพัฒนาโครงการของ APOT ประกอบกับ APOT ค้างชำระค่างวดงานเป็นเวลานาน
ทั้งนี้จาการสำรวจข้อมูลพบว่าส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ 732.31 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 2.78 พันล้านบาท