สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ก.พ.62


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) โดยได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม การที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น เป็นปัจจัยหนุนตลาด และช่วยให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงไม่มากนัก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,057.98 จุด ลดลง 33.97 จุด หรือ -0.13% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,793.90 จุด ลดลง 2.21 จุด หรือ -0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,549.30 จุด ลดลง 5.16 จุด หรือ -0.07%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.)  หลังปรับตัวในแดนลบเกือบทั้งวัน โดยนักลงทุนได้ขานรับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่แข็งแกร่งจากสหรัฐ และความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit ของอังกฤษ ขณะที่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกช่วยหนุนตลาดเช่นกัน

ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.39% ปิดที่ 373.64 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,238.72 จุด เพิ่มขึ้น 6.88 จุด หรือ +0.13% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,540.79 จุด เพิ่มขึ้น 35.40 จุด หรือ +0.31% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,151.12 จุด ลดลง 32.62 จุด หรือ -0.45%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.)  โดยหุ้นกลุ่มส่งออกถูกกดดันจากการที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นรับความหวังครั้งใหม่เกี่ยวกับการเลื่อนกำหนดเส้นตายการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่  7,151.12 จุด ลดลง 32.62 จุด หรือ -0.45%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 คืนนี้ (26 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทำกำไร แม้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.00 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,328.50  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.2 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 15.832 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 6.80 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 860.40 ดอลลาร์/อนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 25.20 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 1519.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตต่อไป แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงก็ตาม ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ขยับขึ้น 2 เซนต์ หรือไม่ถึง 0.05% ปิดที่ 55.50 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 65.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหลายรายการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.52 เยน จากระดับ 111.13 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9990 ฟรังก์ จากระดับ 1.0002 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3167 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3193 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1396 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1364 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3273 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3102 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7193 ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7175 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

Back to top button