สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 มี.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นแอปเปิลที่ปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 3% ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นหลังจากสหรัฐรายงานยอดค้าปลีกที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยสกัดแรงลบจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นโบอิ้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์เครื่องบิน Boeing 737 MAX 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อวันอาทิตย์ จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,650.88 จุด เพิ่มขึ้น 200.64 จุด หรือ +0.79% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,783.30 จุด เพิ่มขึ้น 40.23 จุด หรือ +1.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,558.06 จุด เพิ่มขึ้น 149.92 จุด หรือ +2.02%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังการพุ่งขึ้นของหุ้นดอยช์ แบงก์และหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์จากรายงานข่าวการเจรจาควบกิจการอย่างไม่เป็นทางการ ขณะที่นักลงทุนจับตารอรัฐสภาอังกฤษลงมติข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษในวันอังคารนี้

ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.78% ปิดที่ 373.47 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,265.96 จุด เพิ่มขึ้น 34.75 จุด หรือ +0.66% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,543.48 จุด เพิ่มขึ้น 85.64 จุด หรือ +0.75% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,130.62 จุด เพิ่มขึ้น 26.31 จุด หรือ +0.37%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.)  เนื่องจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก และการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ช่วยหนุนตลาดด้วย ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การลงมติของรัฐสภาอังกฤษต่อข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีในวันอังคารนี้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,130.62 จุด เพิ่มขึ้น 26.31 จุด หรือ +0.37%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุด ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า สัญญาทองคำเข้าสู่ระยะพักฐาน หลังจากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านที่ระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ได้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 1,291.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 7.5 เซนต์ หรือ 0.49% ปิดที่ 15.274 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 816.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 23.00 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1482.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากซาอุดีอาระเบียที่ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า เวเนซุเอลาซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศปิดสถานีส่งออกน้ำมันหลัก เนื่องจากวิกฤตไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ภายในประเทศ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 56.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 66.58 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตารัฐสภาอังกฤษจะลงมติต่อข้อตกลงว่าด้วยการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันอังคารนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนและยูโร หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์

เงินปอนด์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3150 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3013 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1240 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1241 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7061 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7048 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.22 เยน จากระดับ 111.08 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0112 ฟรังก์ จากระดับ 1.0073 ฟรังก์ ส่วนดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3408 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3412 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button