“ศรีสุวรรณ” นำชาวบ้านฟ้องศาลปกครองพิษณุโลก ล้มแผนทำถนนผ่านสวน ร.9

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า วันนี้ (12 มี.ค.) สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและชาวพิษณุโลกได้เดินทางมายื่นฟ้องผู้ว่าฯพิษณุโลก, นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก และโยธาธิการและผังเมืองพิษณุโลก ต่อศาลปกครองพิษณุโลก ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ม.9 (1)(2) แห่ง พรบ.จัดตั้งและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542

ทั้งนี้มีเหตุสืบเนื่องมาจากผู้ว่าฯพิษณุโลก ได้ใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายผนวกเอาที่ดินสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 บริเวณสามแยกเรือนแพ นำไปเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่หนองตาเหี่ยน ทั้งๆ ที่สวนสาธารณะดังกล่าวเป็นสาธารณสมบัติที่พลเมืองใช้ร่วมกัน โดยชาวพิษณุโลกได้ช่วยกันพัฒนาและใช้ประโยชน์ในการออกกำลังกาย และจัดกิจกรรมสันทนาการ ร่วมกับเทศบาลนครพิษณุโลกมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปีแล้ว

โดยการใช้อำนาจดังกล่าวเป็นการใช้กลไกทางกฎหมายที่เริ่มต้นมาจากโยธาธิการและผังเมืองใช้กลเล่ห์ประกาศใช้ผังเมืองเมืองพิษณุโลกโดยกำหนดให้มีถนนผ่าเข้าไปในสวน ร.9 โดยความยินยอมของนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก ซึ่งเจตนาดังกล่าวฟังแล้วดูดี แต่เมื่อพิจารณาในเชิงลึกจะพบว่าถนนดังกล่าวนอกจากจะเป็นการรุกล้ำพื้นที่สวน ร.9 แล้ว ยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับโครงการจัดรูปที่ดินในที่ดินตาบอด ที่มีกลุ่มทุนไปกว๊านซื้อมาเตรียมการไว้แล้ว รวมทั้งเอื้อโรงแรมของนายทุนใหญ่เจ้าของเหล้าเบียร์ยี่ห้อดังด้วย ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ใกล้สวนสาธารณะดังกล่าว

สำหรับการทำโครงการตัดถนนผ่าสวน ร.9 ดังกล่าวไม่มีการเปิดเวทีสาธารณะรับฟังเสียงของประชาชนเสียก่อนตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด ทั้งๆที่สวน ร.9 เป็นสัญลักษณ์ที่คนพิษณุโลกช่วยกันสร้างและทะนุบำรุงรักษาเพื่อน้อมถวายในหลวง ร.9 เมื่อครั้งครบพระชนม์อายุ 80 พรรษา แต่ทว่าผู้ว่าฯ โยธาธิการฯจังหวัดและเทศบาลกลับมาใช้อำนาจโดยพละการตัดถนนผ่าสวนดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการก้าวล่วงในสัญลักษณที่คนพิษณุโลกเทิดทูลในหลวง ร.9 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม ป.อ.112 ด้วย

ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนจึงไม่อาจทนเห็นการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าวได้ จึงได้ร่วมมือกับชาวพิษณุโลกยื่นฟ้องต่อศาลปกครองพิษณุโลก เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาสั่งเพิกถอนโครงการก่อสร้างถนนตัดผ่าสวน ร.9 อย่างถาวรต่อไป แม้ผู้ว่าฯจะแถลงออกตัวว่าได้สั่งระงับการก่อสร้างไว้พลางก่อนแล้วเมื่อวันก่อน แต่ทว่าสมาคมฯและชาวพิษณุโลกหมดความเชื่อถือท่านผู้ว่าฯไปนานแล้ว หลังจากที่เคยรับปากว่าจะไม่อนุญาตให้ถนนตัดผ่าสวน แต่พอเรื่องเงียบกลับปล่อยให้มีการก่อสร้างต่ออีก เช่นนี้จึงต้องขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเท่านั้น เรื่องจึงจะจบ และหลังจากนี้สมาคมฯจะไปร้อง ป.ป.ช.เอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไปด้วย