งานเข้า “พลังประชารัฐ” ศาลฎีกาเคยพิพากษา “ตู่” เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ!!
งานเข้า “พลังประชารัฐ” ศาลฎีกาเคยพิพากษา “ตู่” เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ!!
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้รีบพิจารณาถอดชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกจากบัญชีนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เนื่องจากเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (15)
“เรื่องนี้ไม่น่าใช้เวลาเนิ่นนาน เพราะสถานะของพล.อ.ประยุทธ์ ในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. ควรถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐอยู่แล้ว ซึ่งกกต.ควรรู้อยู่แล้ว เพราะมีคำพิพากษาของศาลลงไว้ให้เห็นแล้ว ซึ่งได้นำคำพิพากษาที่เกี่ยวข้องมายืนยัน” นายเรืองไกร กล่าว
โดยคำพิพากษาศาลแขวงดุสิต คดีหมายเลขแดงที่ อ. 2183/2558 ระบุว่า “ดังนั้น คสช.จึงเป็นเจ้าพนักงานตามอำนาจที่มีกฎหมายรัฐธรรมนูญให้ไว้”
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขแดงที่ 7767/2559 ระบุไว้ว่า “ที่จำเลยอ้างว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.ไม่ใช่เจ้าพนักงานนั้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าคสช.มีอำนาจดำเนินการต่าง ๆ ตามกฎหมาย จึงเป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจออกคำสั่งให้จำเลยมารายงานตัว”
คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 3578/2560 ระบุว่า “ฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น พิพากษาแก้เป็นว่าไม่ปรับบทลงโทษจำเลยตามประกาศคณะรักษาความสงแบห่งชาติ ฉบับที่ 29/2557 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”
คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2322 – 2323/2561 มีการย่อไว้ส่วนหนึ่งว่า “จำเลยเป็นเจ้าพนักงานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ …”
นายเรืองไกร กล่าวว่า จากผลของคำพิพากษาข้างต้น ชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าคสช. เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจออกคำสั่งตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. จึงเป็นเจ้าพนักงานและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย่อมเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐตามความในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98 (15)