CPT ตุนแบ็คล็อค 400 ลบ. มั่นใจหนุนรายได้ปีนี้โต 10% พร้อมลุยชิงงานใหม่ต่อเนื่อง

นายสมศักดิ์ หลิมประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ราว 1,100 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จาก 963 ล้านบาทในปีก่อน พร้อมคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะกลับมาสู่ระดับปกติที่ใกล้เคียงกับปี 60 ที่ทำได้ระดับ 11.35% โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ทั้งหมด

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ของการประปาประมาณ 6-7 โครงการ มูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท โดยการเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ บริษัทคาดหวังว่าจะชนะการประมูลในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ในช่วงไตรมาส 3/62 เป็นต้นไป

สำหรับความคืบหน้าของงานในกลุ่มลูกค้าโรงงานน้ำตาลนั้น บริษัทประเมินว่างานของลูกค้ายังเติบโตได้ต่อเนื่อง จากแผนงานที่จะเปิดโรงงานน้ำตาลใหม่ ขณะเดียวกันจากข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ภายใต้การดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ใบอนุญาตของโรงงานน้ำตาลจะหมดอายุประมาณเดือนก.ค.64 ทำให้โรงงานน้ำตาลหลายแห่ง จำเป็นต้องดำเนินงานจัดซื้อจัดจ้างให้เสร็จเรียบร้อยภายในปลายปี 62 เพื่อให้ทันต่อฤดูกาลหีบอ้อยช่วงปลายปี 63 เป็นต้นไป ส่งผลดีต่อการเข้าไปรับงานจากลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้น โดยมีโครงการโรงงานน้ำตาลขนาดใหญ่ในประเทศไทยอีก 4-5 โครงการ ที่มีสัดส่วนของงานที่บริษัทสามารถเข้ารับงานได้ราว 400 ล้านบาทต่อโครงการ ซึ่งคาดหวังจะได้งานไม่ต่ำกว่า 50% ของแต่ละโครงการ และจะทยอยรู้ผลการประมูลงานในช่วงหลังการเลือกตั้งเป็นต้นไป

ส่วนการขยายตลาดต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน ยังเป็นเป้าหมายสำคัญของบริษัท เพื่อสร้างเสถียรภาพการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว ทั้งในเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซียที่มีการเติบโตของกลุ่มโรงงานน้ำตาลที่ขยายการลงทุนก่อสร้างโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่เป็นจำนวนมาก โดยบริษัทอยู่ระหว่างการประมูลงานหลายโครงการและคาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็ว ๆ นี้

โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย ที่บริษัทยังเห็นการเติบโตของโรงงานน้ำตาลค่อนข้างมาก บริษัทจึงมุ่งเน้นการขยายตลาดในประเทศดังกล่าว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าประมูลงาน 3-4 โครงการ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

ด้านความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ของบริษัท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบเครื่องจักร และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยจะเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการวางระบบและจำหน่ายตู้ควบคุมไฟฟ้าไปยังอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เช่น กลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี รวมทั้งงานโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตรอบใหม่ให้กับบริษัทได้

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทลูก โดยถือหุ้น 100% เพื่อดำเนินธุรกิจการปล่อยสินเชื่อ เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าให้กับอุตสาหกรรมหนัก โดยการนำพลังงานที่สูญเสียจากการใช้ไฟมาทำให้เกิดประโยชน์และประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น สำหรับสาเหตุที่บริษัทจัดตั้งบริษัทให้สินเชื่อขึ้นมานั้น เพื่อรองรับกับบริษัท หรือ โรงงานที่สนใจติดตั้งแต่ไม่ต้องการลงทุนเอง เพราะที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการไม่ค่อยสนใจในโครงการดังกล่าว เพราะไม่แน่ใจว่าพลังงานสูญเสียจะนำมาใช้ได้จริง

สำหรับเงินที่จะใช้ในการปล่อยสินเชื่อนั้นส่วนหนึ่งจะมาจากเงินที่เหลือจากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ประมาณ 300 ล้านบาท และเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนหากนายจิรวุฒิ คุวานันท์ แปลงสภาพวอร์แรนต์ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินเข้ามาบริษัทประมาณ 102 ล้านบาท