EA เผยโฉม “รถยนต์ EV” เปิดจองสิทธิซื้อในงาน “Motor Show 2019” ลุยส่งมอบล็อตแรกต้นปี 63

EA เผยโฉม "รถยนต์ EV" เปิดจองสิทธิซื้อในงาน "Motor Show 2019" ลุยส่งมอบล็อตแรกต้นปี 63


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 27 มี.ค.-7 เม.ย.นี้ จะมีการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 หรือ Motor Show 2019  ที่มาพร้อมแนวคิด “สุนทรียภาพทางอารมณ์ ENJOYMENT OF AUTOMOBILES” สัมผัสอันนุ่มสบายกระชับของเบาะรถยนต์ แต่งแต้มด้วยความสปอร์ตเร้าใจของการบังคับพวงมาลัยอันคล่องแคล่ว ด้วยอุปกรณ์สร้างความสะดวกสบายต่าง ๆ ของเทคโนโลยียานยนต์ สร้างประสบการณ์ที่มีระดับ และอัจฉริยะกว่าที่เคย

ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการแสดงเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA รวมถึงค่ายรถยนต์กว่า 30 แบรนด์ และค่ายรถจักรยานยนต์กว่า 7 แบรนด์ บนพื้นที่จัดงานในฮอลล์ 60,000 ตร.ม.

ล่าสุด นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศทาง Facebook Live ข่าวหุ้นธุรกิจ และสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) FM 102 MHz. ว่า บริษัทเตรียมนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MINE MPV ราคาเฉลี่ย 1 ล้านบาท ไปแสดงในงาน Bangkok International Motor Show 2019 พร้อมเปิดจองสิทธิ์ในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อดูความสนใจ โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้ในช่วงต้นปี 2563

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น MINE MPV สามารถวิ่งได้สูงสุด 200-210 กิโลเมตร ต่อการชาร์จพลังงาน 1 ครั้ง โดยการชาร์จจะมีทั้งหมด 2 ระบบ คือ ระบบซูเปอร์ชาร์จ ใช้เวลาชาร์จ 12 นาที และระบบนอมอลชาร์จ ใช้เวลาชาร์จ 2 ชั่วโมง

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น EA ให้ราคาเป้าหมาย 52 บาทต่อหุ้น เนื่องจากทิศทางในระยะสั้นผลกำไรไตรมาส 1/62 คาดจะเร่งการฟื้นตัวเด่นจากไตรมาสก่อนหน้า จากการผลักดันของโครงการลมหาดกังหัน และกำลังการผลิตใหม่อีกอย่างน้อย 90MW จากโครงการหนุมาน จึงส่งผลให้กำลังการผลิตรวมในไตรมาสนี้จะเพิ่มอีกอย่างน้อย 22% จากสิ้นปี 2561

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเข้าสู่วงจรการลงทุนใหญ่อีกครั้งในปี 2562 ซึ่งจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อ กำไร และความเสี่ยง ในปี 2563 ฝ่ายวิจัยมองว่า valuation ที่ให้ไว้ 52.00 บาท/ หุ้น ซึ่งอิงเฉพาะธุรกิจในปัจจุบันจึงเพียงพอต่อการเป็นตัวแทน EA ระหว่างปีนี้ หรือจนกว่าจะชัดเจนในแง่รายได้ของโครงการใหม่ๆ

ทั้งนี้ ผู้บริหารเคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า นอกจากการ COD โครงการลมอีก 170MW ครบในไตรมาส 1/62 นี้ บริษัทตั้งงบลงทุนไว้กว่า 7.5 พันล้านบาท ใช้ในธุรกิจโรงงานแบตเตอรี่ 5.0 พันล้านบาท, โรงงานโบโอดีเซล PCM Green Diesel 1.0 พันล้านบาท, โครงการเรือไฟฟ้า 1 พันลบ. และสถานีชาร์จ EV station จำนวน 500 ล้านบาท จาก 300 เพิ่มเป็น 1000 สถานี โดยได้เริ่มทยอยก่อสร้างแล้ว คาดหวังรายได้แรกจากกลุ่มงาน PCM ในราวไตรมาส 3/62

ส่วนการกระตุ้นตลาดรถไฟฟ้าผ่านรถยนต์ต้นแบบ MINE คาดจะเปิดให้จองในปลายปี 2562 และจะส่งมอบล็อตแรกในปี 63 นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างทดลองทำ Hybrid power plant ในพม่า และเวียดนามรวม 40MW อีกด้วย (คาด IRR 10-15%) ดังนั้นภาพรวมปี 2562 ผลกำไรยังคงถูกขับเคลื่อนจากธุรกิจโรงไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ โดยคาดกำไรสุทธิ 6.7 พันล้านบาท ขยายตัว 34% จากปีก่อน ผลักดันจากกำลังการผลิตใหม่

Back to top button