รอด! มติผู้ตรวจฯ ชี้สถานะ “บิ๊กตู่” ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ

นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลวินิจฉัยกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีพรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 นั้น มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 88 และ 89 และมาตรา 160 ประกอบมาตรา 98 (15) หรือไม่ และ กกต.ให้การรับรองการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

โดยคำร้องนี้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ ส่วนกรณีร้องเรียน ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ หรือไม่นั้น ศาลรัฐธรรมนูญ ได้เคยวินิจฉัยว่า คำว่า “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ต้องมีลักษณะ 1.ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย 2.มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการ หรือปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย และปฏิบัติงานประจำ 3.อยู่ในบังคับบัญชา หรือ ในกำกับดูแลของรัฐ 4.มีเงินเดือนค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนตามกฎหมาย

พลเอกประยุทธ์ เข้าข่ายเพียงแค่ 2 องค์ประกอบ คือ ข้อ 2 และ ข้อ 4 แต่เมื่อวินิจฉัยแล้ว แม้ว่าจะมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการ และเงินเดือนค่าจ้าง ได้มาจากการได้รับแต่งตั้งโดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ เป็นหัวหน้า คสช. ซึ่งมิใช่เป็นการแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย ดังนั้น พลเอกประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. จึงมิได้มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ

ทั้งนี้ กกต. จึงประกาศรับรองรายชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐได้ตามกฎหมาย ไม่มีเหตุให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะต้องเสนอเรื่องขอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลปกครองผู้ตรวจการแผ่นดินจึงขอวินิจฉัยให้ยุติเรื่องร้องเรียนดังกล่าว โดยหลังจากนี้จะแจ้งให้กับผู้ร้องทราบต่อไป