SAMCO จ่อตั้งกองทรัสต์คอมมูนิตี้มอลล์ เล็งขายสินทรัพย์วงเงิน 1.1 พันลบ.ภายในไตรมาส 4/62
SAMCO จ่อตั้งกองทรัสต์คอมมูนิตี้มอลล์ เล็งขายสินทรัพย์วงเงิน 1.1 พันลบ.ภายในไตรมาส 4/62
บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 15 มี.ค. อนุมัติให้บริษัท และ/หรือ บริษัท เพียวสัมมากร ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (PSDC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าทำธุรกรรมการจำหน่ายทรัพย์สิน และธุรกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกรรมการจำหน่ายทรัพย์สิน ให้แก่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอมมูนิตี้มอลล์ (กองทรัสต์)
โดยมีมูลค่าไม่เกิน 1,105 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสาร เพื่อขออนุมัติการจัดตั้งกองทรัสต์จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ซึ่งคาดว่าการจำหน่ายทรัพย์สินและการซื้อหน่วยทรัสต์จะเกิดขึ้นภายในไตรมาส 4/62
สำหรับธุรกรรมการจำหน่ายทรัพย์สินดังกล่าว ประกอบด้วยการให้เช่าทรัพย์สินระยะยาวของโครงการสัมมากร เพลส รามคำแหง (เวสต์) โครงการสัมมากร เพลส รังสิต และโครงการสัมมากร เพลส ราชพฤกษ์ รวมถึงการจำหน่ายทรัพย์สินประเภทสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินศูนย์การค้าของแต่ละโครงการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของ PSDC ที่ประกอบกิจการศูนย์การค้าประเภทคอมมูนิตี้มอลล์ให้แก่กองทรัสต์ ซึ่งระยะเวลาการให้เช่าทรัพย์สินระยะยาว จะเริ่มตั้งแต่วันที่กองทรัสต์เข้าลงทุนในสิทธิการเช่าในทรัพย์สินของ PSDC จนถึงวันครบกำหนดตามการจดทะเบียนสิทธิการเช่าของแต่ละโครงการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ยังอนุมัติให้บริษัท และ/หรือบริษัทย่อย เข้าทำธุรกรรมซื้อหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายโดยกองทรัสต์ ไม่ต่ำกว่า 10% ของมูลค่าทรัพย์สินที่บริษัทย่อยของบริษัทจำหน่ายให้แก่กองทรัสต์ และให้กู้ยืมเงินระยะสั้น (Bridging Loan) จากสถาบันการเงินมาใช้ในธุรกรรมซื้อหน่วยทรัสต์ และจะชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวด้วยเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายทรัพย์สินดังกล่าว (ถ้ามี)
รวมถึงอนุมัติให้เข้าทำธุรกรรมสัญญาเช่าช่วงพื้นที่สำนักงานบางส่วนของโครงการสัมมากร เพลส รามคำแหง (เวสต์) จากกองทรัสต์ตามสัญญาเช่าดำเนินงานเพื่อใช้เป็นอาคารสำนักงานของบริษัท และ/หรือ บริษัทย่อยของบริษัท (ธุรกรรมสัญญาเช่าช่วงพื้นที่สำนักงาน) โดยมีการจดทะเบียนสิทธิการเช่าเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 ปี
สำหรับขนาดรายการของธุรกรรมซื้อหน่วยทรัสต์ดังกล่าว มีขนาดรายการไม่ต่ำกว่า 111 ล้านบาท และธุรกรรมสัญญาเช่าช่วงพื้นที่สำนักงานมีขนาดรายการไม่เกิน 35 ล้านบาท
โดยบริษัทคาดว่าจะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินดังกล่าว ไปใช้ตามแผนการดำเนินงานของบริษัท เช่น นำเงินไปลงทุนในโครงการอื่น ๆ หรือชำระหนี้สินและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการให้บริการเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัพย์สินที่จำหน่าย ให้แก่กองทรัสค์ตามสัญญาแต่งตั้งผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ การให้บริการตามสัญญาดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทสามารถนำเงินทุนที่ได้ไปใช้จ่ายชำระคืนเงินกู้ และ/หรือ หนี้สินที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท