RS เด้ง 4% โบรกฯแนะเป้า 22 บ. ชี้ยอดขายธุรกิจ MPC โตออลไทม์ไฮ ดันกำไรไตรมาส 1 พุ่งกระฉูด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ล่าสุด ณ เวลา 11.09 น. อยู่ที่ 17.70 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 4.12% สูงสุดที่ 17.70 บาท ต่ำสุดที่ 17.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 141.43 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” RS ราคาเป้าหมาย 22 บาท/หุ้น จากการขยายธุรกิจพาณิชย์ (Multi-platform Commerce : MPC) เพิ่มขึ้น ประกาศร่วมพันธมิตรกับช่องไทยรัฐทีวีในการจำหน่ายสินค้าช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ รวมถึงแผนการเพิ่มจำนวนสินค้า SKU และ call center มากขึ้น

สำหรับธุรกิจมีเดียบริษัทเน้นในการใช้สื่อในการจำหน่ายสินค้าตนเองมากขึ้นซึ่งมีผลตอบแทนดีกว่า เราคาดกำไรจากการดำเนินงานยังเพิ่มขึ้นได้อยู่ที่เฉลี่ยปีละ 26% (CAGR3y) ทั้งนี้บริษัทประกาศย้ายกลุ่มไปกลุ่ม commerce ในวันที่ 29 มี.ค.19 นี้

นอกจากนี้คาด RS จะกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 1/62 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อน และทรงตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากการคาดการณ์ยอดขายธุรกิจ MPC ที่จะสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นสูงสุดจากไตรมาส 4/61 และไตรมาส 1/61 ที่มียอดขายประมาณ 580 ล้านบาท เนื่องจากการทำโปรโมชั่นในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ส่งผลรับรู้รายได้จากการยอดค้างส่งมาในไตรมาสนี้และการทำโปรโมชั่นในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น รวมถึงการร่วมกับช่องไทยรัฐทีวีจำหน่ายสินค้าตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. 2562 มียอดขายในช่วงเริ่มต้นตอบรับดีเฉลี่ย 5-6 แสนบาท/วัน โดย RS แบ่งรายได้จากการขายให้ช่องไทยรัฐทีวี 30%

สำหรับรายได้ธุรกิจทีวีในไตรมาส 1/62 เป็นช่วง low season ของกลุ่มมีเดีย ซึ่งคาดรายได้จะลดลงเทียบกับไตรมาส 4/61 เนื่องจากฐานสูง แต่ใกล้เคียงกับ 1Q19 สำหรับปัจจุบันบริษัทมียอดจองโฆษณาทีวีล่วงหน้าแล้ว 1,300 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 1,500 ล้านบาท ซึ่งคาดจะรับรู้ในไตรมาส 1/62 ที่สัดส่วน 15% อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจะมีการบันทึกรายการพิเศษสำรองพนักงานเกษียณอายุตามกฎหมายใหม่ในช่วงไตรมาส 1/62 จำนวน 26 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามยังคงประมาณการเดิม คาดกำไรเติบโตจากการขยายธุรกิจ MPC เพิ่มช่องทางจำหน่าย และยังคงประมาณการเดิม คาดธุรกิจการขายสินค้า (MPC) คาดเพิ่มขึ้นปี 2562 ที่ 34% และปี 2563 เพิ่มขึ้น 20% โดยในปี 2562 นี้ จะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากการ่วมกับช่องไทยรัฐทีวีในการร่วมจำหน่ายสินค้าของ RS เพิ่มขึ้น มีมุมมองเชิงบวกในการขยายธุรกิจ (MPC) ครั้งนี้ เนื่องจากช่องไทยรัฐทีวีมีกลุ่มฐานผู้ชมกว่า 3 แสนคน มีเรตติ้งอยู่ที่อันดับ 6 ที่ 0.705 เทียบกับช่อง 8 มีเรตติ้งอยู่ที่อันดับ 7 อยู่ที่ 0.532 (กลุ่ม 18 ชม, อายุ 15+) อย่างไรก็ตาม เราคาดการณ์เติบโตจากการร่วมพันธมิตรครั้งนี้แบบอนุรักษ์นิยมที่ 350 ล้านบาท หรือ 70% ของบริษัทคาด

ส่วนธุรกิจมีเดียยังคงประมาณการเดิม คาดธุรกิจทีวีมีอัตราค่าโฆษณาเท่าเดิมที่ 30,000 บาท/นาที คาดการใช้สื่อโฆษณาเฉลี่ย 40% เนื่องจากบริษัทมีการใช้อัตราสื่อโฆษณาเองในการจำหน่ายสินค้ามากขึ้น คาดอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยปี 2561-2563 อยู่ที่ 46% เนื่องจากรายได้ธุรกิจการจำหน่ายสินค้ามีมาร์จิ้นที่ดีกว่าเพิ่มขึ้น เราคาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2562-2564 ยังเพิ่มขึ้นได้ 26% (CAGR3y)

อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรระมัดระวังเนื่องจาก RS จะมีจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนที่ครบกำหนดขาย 30 พ.ค. 2019 จำนวน 43 ล้านหุ้น หรือ 4.28% ของทุนจดทะเบียน ราคาเฉลี่ย 10.75 บาท