สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 มี.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งเป็นหุ้นมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มขนส่งร่วงลงหลังจากบริษัทเฟดเอ็กซ์ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2562 เนื่องจากปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยนและผลกระทบของสงครามการค้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,745.67 จุด ลดลง 141.71 จุด หรือ -0.55% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,824.23 จุด ลดลง 8.34 จุด หรือ -0.29% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,728.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด หรือ +0.07%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) นำโดยหุ้นไบเออร์ ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ของเยอรมนี ดิ่งลงเกือบ 10% หลังจากคณะลูกขุนในซานฟรานซิสโกมีคำวินิจฉัยเมื่อวานนี้ว่า สารไกลโฟเสทในผลิตภัณฑ์ยาฆ่าหญ้า “ราวน์อัพ” เป็นสารที่ทำให้เกิดมะเร็ง ขณะที่บรรดานักลงทุนรอดูความคืบหน้าจากเหตุการณ์สำคัญต่างๆ รวมถึงการแถลงข่าวผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ข่าวลือเกี่ยวกับความขัดแย้งในการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ และความคืบหน้าเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนี Stoxx Europe ลบ 0.90% ปิดที่ 380.84 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,382.66 จุด ลดลง 43.24 จุด หรือ -0.80% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,603.89 จุด ลดลง 184.52 จุด หรือ -1.57% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,291.01 จุด ลดลง 32.99 จุด หรือ -0.45%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)  และการแถลงข่าวผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,291.01 จุด ลดลง 32.99 จุด หรือ -0.45%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะแถลงมติการประชุม

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,301.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 5.4 เซนต์ หรือ 0.35% ปิดที่ 15.318 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 859.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 8.50 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1560.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 59.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 68.50 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.62 เยน จากระดับ 111.41 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9900 ฟรังก์ จากระดับ 0.9992 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3269 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3309 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1445 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1352 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ  1.3245 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3268 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7142 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7090 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button