PTTEP วอลุ่มแน่น-บวก 2% หลังซื้อกิจการ “Murphy Oil” โบรกฯเคาะเป้าใหม่ 150 บ. อัพไซด์ 20%
PTTEP วอลุ่มแน่น-บวก 2% หลังซื้อกิจการ “Murphy Oil” โบรกฯเคาะเป้าใหม่ 150 บ. อัพไซด์ 20% ณ เวลา 10.26 น. อยู่ที่ระดับ 126 บาท บวก 2 บาท หรือ 1.61% สูงสุดที่ระดับ 126.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 125 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 709.33 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ณ เวลา 10.26 น. อยู่ที่ระดับ 126 บาท บวก 2 บาท หรือ 1.61% สูงสุดที่ระดับ 126.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 125 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 709.33 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้ หลังมีการรายงานข่าวว่าบริษัททุ่มเงินลงทุนกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซื้อกิจการ “Murphy” เพื่อขยายลงทุนแหล่งปิโตรฯมาเลเซีย ดันปริมาณขายเพิ่ม 15%
ตามการรายงานข่าวก่อนหน้านี้ : PTTEP ทุ่ม6หมื่นลบ. ซื้อกิจการ “Murphy” ขยายลงทุนแหล่งปิโตรฯมาเลเซีย ดันปริมาณขายเพิ่ม15%
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะ “ซื้อ” หุ้น PTTEP ด้วยราคาเป้าหมาย 150 บาท และมีโอกาสปรับขึ้น เนื่องจากการซื้อหุ้น 100% ของ Murphy Sabah Oil และ Murphy Sarawak Oil มูลค่า 2,127 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการขยายเข้าไปในมาเลเซียในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่ ช่วยเพิ่มรายได้ ปริมาณการผลิตและสำรองในระยะยาว โดยทั้ง 2 บริษัทเป็น asset ที่ดี มี EBITDA margin สูง คาดเพิ่มสำรอง 27% เพิ่มกำไรราว 10-15%
ขณะเดียวกัน ด้านบล.กรุงศรี แนะ “ซื้อ” หุ้น PTTEP ให้เป้าใหม่ 150 บาท จากเดิม 115 บาท โดยได้ปรับคำแนะนำและราคาเป้าหมายของ PTTEP ขึ้นสะท้อนมุมมองบวกจากการเข้าซื้อกิจการ Murphy oil ในมาเลเซีย คาดการเข้าซื้อดังกล่าวจะเพิ่ม Sale volume และกำไรให้กับ PTTEP เฉลี่ย 18% ต่อปีในช่วง 5 ปี ข้างหน้า
ส่วนบล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะ “ซื้อ” หุ้น PTTEP หลังขึ้นแท่นผู้ผลิตเบอร์ 3 ในมาเลเซียจากการซื้อ Murphy Oil โดย PTTEP แจ้งการเข้าซื้อธุรกิจทั้งหมดของบริษัท Murphy ประเทศมาเลเซีย ทำให้ PTTEP ได้แหล่งผลิตและสำรวจเพิ่มขึ้นมา 5 แหล่ง สำหรับเงินลงทุนให้การเข้าซื้อดังกล่าวอยู่ที่ 2,127 ล้านเหรียญสหรัฐ และบริษัทจะชำระมูลค่าการซื้อขายด้วยเงินสดที่มีอยู่ โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 2/62
โดยประเมินว่าเป็น Deal ที่คุ้มค่าสำหรับ PTTEP ด้วย 1) ราคาซื้อที่ไม่แพง โดยราคาซื้อต่อ 2P reserve อยู่ที่ประมาณ 8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ถูกกว่าค่าเฉลี่ยที่ 11 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล 2) สามารถรับรู้ผลกำไรได้ทันที ราวไตรมาสละ 65 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 พันล้านบาท ทำให้กำไรปี 2562 และ 2563 เพิ่มขึ้น 4 พันล้านบาท และ 8 พันล้านบาท +10% และ 25% ตามลำดับ
พร้อมประเมิน Upside ประมาณ 5-9 บาทต่อหุ้น โดยให้ราคาเป้าหมายเดิมที่ 139.00 บาท (ยังไม่รวม Upside จาก Murphy)
สำหรับบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ได้ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” หุ้น PTTEP ราคาเหมาะสม 150 บาท ไม่รวม Upside จาก Murphy มูลค่าประมาณ 8.10 บาท/หุ้น คาด EBITDA เพิ่มประมาณ 15% ในปี 2563 โดยสินทรัพย์ Murphy มีปริมาณปิโตรเลียมสำรอง (2P) 274 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ (MMBOE) คิดเป็น 27% ของปริมาณปิโตรเลียมสำรองของ PTTEP โดยสัดส่วนของ Murphy เป็นของเหลว 37% และก๊าซฯ 63% ทำให้โครงสร้างปริมาณสำรองของ PTTEP มีของเหลวเพิ่มขึ้นเป็น 27% จาก 25% ณ. สิ้นปี 2561 โดยก๊าซฯ ลดสัดส่วนเหลือ 73%