สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของประเทศต่างๆ ในยุโรปและสหรัฐ ลดลง และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เตือนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,502.32 จุด ลดลง 460.19 จุด หรือ -1.77% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,800.71 จุด ลดลง 54.17 จุด หรือ -1.90% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,642.67 จุด ลดลง 196.29 จุด หรือ -2.50%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.)  นำโดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนโดยรวม หลังจากการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนลดลงในเดือนมี.ค. ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด

ดัชนี Stoxx Europe ลบ 1.22% ปิดที่ 376.03 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,269.92 จุด ลดลง 108.93 จุด หรือ -2.02% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,364.17 จุด ลดลง 185.79 จุด หรือ -1.61% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,207.59 จุด ลดลง 147.72 จุดหรือ -2.01%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) โดยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นๆ ในยุโรป เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนโดยรวม หลังจากการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนลดลงในเดือนมี.ค. ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ เงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นถ่วงหุ้นกลุ่มส่งออกลงด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,207.59 จุด ลดลง 147.72 จุด หรือ -2.01%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งอาจกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน หลังจากที่มีการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของประเทศต่างๆ ในยุโรปและสหรัฐ ลดลง และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เตือนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 59.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 83 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 67.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังจากที่มีการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของประเทศต่างๆ ในยุโรปและสหรัฐ ลดลง และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เตือนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1,312.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 15.407 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 12.70 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ 848.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 42.40 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 1,515.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) ขณะที่ยูโรร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรป หลังการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซน เยอรมนี และฝรั่งเศส ลดลง

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9944 ฟรังก์ จากระดับ 0.9937 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3413 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3376 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.06 เยน จากระดับ 110.77 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงแตะเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1293 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1353 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.3207 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3075 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7083 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7107 ดอลลาร์สหรัฐ