5 แบงก์ใหญ่ฉุดตลาดร่วงแรง หลังเจอวิกฤตกรีซ-เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า

5 แบงก์ใหญ่ฉุดตลาดหุ้นไทยร่วงกว่า 10 จุด หลังเจอวิกฤตกรีซ อีกทั้งเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า โดยตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง 10.80 จุด โบรกเกอร์มองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 กลุ่มธนาคารจะอ่อนแอต่อเนื่องจากไตรมาส 1


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ณ เวลา 15.47น. ราคาอยู่ที่ 189.50 บาท ลบ 6 บาท หรือ 3.07% สูงสุดที่ 196 บาท ต่ำสุดที่ 189.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 3.07 พันล้านบาท

ด้านราคาหุ้นธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ราคาอยู่ที่ 17.10 บาท ลบ 0.40 บาท หรือ 2.29% สูงสุดที่ 17.60 บาท ต่ำสุดที่ 17 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 1.56 พันล้านบาท

ขณะที่ราคาหุ้นธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ราคาอยู่ที่ 178 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 0.28% สูงสุดที่ 180 บาท ต่ำสุดที่ 177 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 582.67 ล้านบาท

ขณะเดียวกันราคาหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ราคาอยู่ที่ 156 บาท ลบ 5 บาท หรือ 3.11% สูงสุดที่ 160 บาท ต่ำสุดที่ 155.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 1.48 พันล้านบาท

อีกทั้งธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ราคาอยู่ที่ 32.50 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 4.41% สูงสุดที่ 33.75 บาท ต่ำสุดที่ 31.75 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 237.47 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.71%

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มิ.ย.) ว่าประเด็นกรีซยังคงเป็นปัจจัยระยะสั้นที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากไม่มี Surprise กรีซคงจะผิดนัดชำระหนี้ในครั้งนี้กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลกรีซ 10 ปีพุ่งขึ้นรุนแรงสู่ระดับ 14.34% (+386bps) ขานรับความเสี่ยงที่สถาบันจัดเครดิต S&P ให้โอกาสเกิด Default 50% และปรับลด Rating ลงสู่ CCC- จาก CCC

อย่างไรก็ตาม ยังต้องดูการตัดสินใจของประชาชนกรีซในการทำประชามติ 5 ก.ค. นี้ ว่าจะยอมรับเงื่อนไขของกลุ่มเจ้าหนี้หรือไม่ ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะชี้บทสรุปว่ากรีซจะอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไปหรือไม่ โดยหากพิจารณาประเด็นความเสี่ยงของการผิดนัดครั้งนี้จะพบว่าในส่วนของธนาคารยุโรป (ECB) ปัจจุบันหลังพ้นการปรับโครงสร้างและ Hair Cut หนี้ พันธบัตรรัฐบาลกรีซไปในปี 55 ได้ลดการถือครองพันธบัตรกรีซจาก 1.3 แสนล้านยูโร สู่ระดับต่ำเพียง 3.3 หมื่นล้านยูโรเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น หากกลับมาพิจารณาผลกระทบจากวิกฤติหนี้กรีซที่มีต่อไทยจะพบว่าในแง่ของการค้าระหว่างไทย-กรีซ คิดเป็นเพียง 0.1%ของ GDP เท่านั้น

ส่วนการถือครองสินทรัพย์ของ ธนาคารยุโรปในไทย ปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 1.8 หมื่นล้านยูโร คิดเป็น 4.3% ของ GDP ซึ่งเกือบน้อยที่สุดในเอเซีย ดังนั้นกรณีความเสี่ยงหากเกิดการ Unwind Position ของสินทรัพย์ธนาคารในยุโรป คาดผลกระทบต่อไทยค่อนข้างจำกัด

นอกจากนี้ค่าเงินยูโรล่าสุดที่แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.12 EUR/USD ถือเป็นสัญญาณที่สะท้อนความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของกลุ่มยูโรโซน รวมถึงบทสรุปที่ไม่ว่าจะออกมาในทางใดก็น่าจะเป็นบทสรุปของการแก้ปัญหาที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะหนุนค่าเงินยูโรมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นเป็นลำดับ บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงถัดไป

ด้าน บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มิ.ย.) ว่าภาพรวมตลาดภาคเช้ามีแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคาร นำโดย BAY, TMB, KTB, KBANK โดยดัชนีมีการแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศ คือ ความกังวลเรื่องกรีซ หลังจากนายกรัฐมนตรีของกรีซ ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนชาวกรีซปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้ในการลงประชามติที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ และปัจจัยในประเทศที่จะมีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัวเลขในช่วงบ่ายนี้

โดยความเคลื่อนไหวในภาคเช้า ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในภาพรวมเดือน พ.ค.58 หดตัวลดลง 7.6% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้

ขณะที่ บล. ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มิ.ย.) ว่ากลุ่มธนาคารกดดันตลาด หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด โดยจากการประชุมนักวิเคราะห์ KBANK และ SCB ทำให้กังวลมากขึ้นต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2558 กลุ่มธนาคารที่คาดว่าจะอ่อนแอต่อเนื่องจากไตรมาส 1

อีกทั้ง บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มิ.ย.) งบดุลของธนาคารในเดือน พ.ค.แสดงสัญญาณอ่อนแอต่อเนื่อง โดยกิจกรรมการกู้ยืมยังคงชะลอตัวอยู่ที่ +0.1% จากเดือนก่อน (จาก +0.5% จากเดือนก่อนในเดือนเมษายน) และ +0.8% จากทั้งปีถึงปัจจุบัน ซึ่งการที่ยอดดอกเบี้ยคงค้างเพิ่มขึ้นอย่างมากแสดงให้เห็นว่าธนาคารส่วนใหญ่กำลังถูกกดดันจากความเสี่ยงทั้งเรื่องของคุณภาพสินทรัพย์และกำไรจาก NIM ที่ถูกบีบในไตรมาสที่ 2/58 ซึ่งมองว่าหลังจากการปรับลดประมาณการ GDP ของธปท. เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปัญหาภัยแล้งอาจจะเป็นความเสี่ยงใหม่ที่จะกระทบกำไรธนาคารทำให้ต้องมีการปรับลดประมาณการ GDP ลงอีก ยังคงให้น้ำหนักกลุ่มธนาคารเท่ากับตลาด และมองว่าน่าจะเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาหุ้นลดลงต่ำกว่า -1SD โดยเลือก KBANK เป็นหุ้นเด่น

Back to top button