สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 มี.ค. 2562
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด โดยรัฐมนตรีคลังและผู้แทนการค้าของสหรัฐจะเดินทางเยือนจีนเพื่อหารือด้านการค้ากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,657.73 จุด เพิ่มขึ้น 140.90 จุด หรือ +0.55% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,818.46 จุด เพิ่มขึ้น 20.10 จุด หรือ +0.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,691.52 จุด เพิ่มขึ้น 53.98 จุด หรือ +0.71%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนปรับตัวรับข่าวที่ว่า รัฐสภาอังกฤษได้เข้าควบคุมกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโร (Brexit) แล้ว ขณะที่รัฐบาลอังกฤษเตรียมเสนอให้มีการลงมติเรื่องข้อตกลง Brexit ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้
ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.77% ปิดที่ 377.20 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,307.38 จุด เพิ่มขึ้น 46.74 จุด หรือ +0.89% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,419.48 จุด เพิ่มขึ้น 72.83 จุด หรือ +0.64% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,196.29 จุด เพิ่มขึ้น 18.71 จุด หรือ +0.26%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนปรับตัวรับข่าวที่ว่า รัฐสภาอังกฤษได้เข้าควบคุมกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโร (Brexit) แล้ว หลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษยอมรับว่า เธอไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะทำให้รัฐสภาอังกฤษอนุมัติข้อตกลง Brexit ของเธอที่ทำไว้กับสหภาพยุโรป (EU)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,196.29 จุด เพิ่มขึ้น 18.71 จุด หรือ +0.26%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การที่รัฐบาลสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลานั้น จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกประสบภาวะตึงตัว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 59.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 67.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7.60 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1,315.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 13.8 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 15.429 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 859.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 27.50 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,515.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นจากรายงานที่ว่ารัฐสภาอังกฤษได้เข้าควบคุมกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโร (Brexit) แทนนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรี
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1278 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1312 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3218 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3180 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7144 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7108 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.53 เยน จากระดับ 110.05 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9936 ฟรังก์ จากระดับ 0.9925 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3379 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3411 ดอลลาร์แคนาดา