สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐลดลงต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2561 ของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,625.59 จุด ลดลง 32.14 จุด หรือ -0.13% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,805.37 จุด ลดลง 13.09 จุด หรือ -0.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,643.38 จุด ลดลง 48.15 จุด หรือ -0.63%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) หลังจากการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจยูโรโซน หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันที่จะเข้าแทรกแซง หากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ด้วย

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,301.24 จุด ลดลง 6.13 จุด หรือ -0.12% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,419.04 จุด ลดลง 0.44 จุด หรือ -0.00% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,194.19 จุด ลดลง 2.10 จุด หรือ -0.03%

ส่วนดัชนี Stoxx Europe บวก 0.02% ปิดที่ 377.28 จุด

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตารอผลการลงมติของรัฐสภาอังกฤษเกี่ยวกับทางเลือกในการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโร (Brexit)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,194.19 จุด ลดลง 2.10 จุด หรือ -0.03%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 4.60 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 1,310.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 13.1 เซนต์ หรือ 0.85% ปิดที่ 15.298 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 862.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 94.40 ดอลลาร์ หรือ 6.2% ปิดที่ 1,421.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่สูงขึ้นในตลาดโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 59.41 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 67.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB พร้อมที่จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีก

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1263 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1278 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3263 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3218 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7086 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7144 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9949 ฟรังก์ จากระดับ 0.9936 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3402 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3379 ดอลลาร์แคนาดา อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.38 เยน จากระดับ 110.53 เยน